ฟุตบอลเอฟเอคัพ
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานอกจากจะมีการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแล้วยังมีการแข่งขันฟุตบอลถ้วย เอฟเอคัพ โดยเป็นการแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งมีไฮไลท์ของการแข่งขันดังนี้
แมนซิตี้ vs เบิร์นลีย์
สำหรับเอฟเอคัพเกมนี้ไม่ใช่งานยากเย็นสำหรับแมนซิตี้มากนักโดยสามารถเอาชนะเบิร์นลีย์ไปได้ถึง 6 ประตูด้วยกัน โดยประตูแรกของแมนซิตี้มาจากเออร์ลิง ฮาแลนด์ที่แตะบอลเข้าประตูไปได้อย่างง่ายดายจากการส่งทะลุช่องของฮูเลี่ยน อัลวาเรซในนาทีที่ 32 ถัดมานาทีที่ 35 ฮาแลนด์ก็ทำประตูที่ 2 ให้กับตัวเองจากการจ่ายของฟิล โฟเดน จบครึ่งแรกแมนซิตี้นำ 2-0
ครึ่งหลังในนาทีที่ 58 ฟิล โฟเดนยิงบอลจากด้านซ้ายไปชนเสาไกลก่อนที่บอลจะกระดอนไปให้เออร์ลิง ฮาแลนด์ได้ซ้ำในจังหวะสองกลายเป็นแฮตทริกให้กับตัวเองและประตูที่ 3 ให้กับทีมแมนซิตี้ และแมนซิตี้ก็ได้ประตูที่ 4 นาทีที่ 61 จากการจ่ายของเควิน เดอ บรอยน์ให้ฮูเลี่ยน อัลวาเรซยิง และก็ดูเหมือนว่ากองหลังของทีมเบิร์นลีย์จะไม่สามารถหยุดยั้งเกมลูกของแมนซิตี้ได้และเสียบประตูที่ 5 จากการยิงของโคล พาล์มเมอร์ในนาทีที่ 68 และจบด้วยประตูที่ 6 จากฮูเลี่ยน อัลวาเรซ จบเกมแมนซิตี้ถล่ม เบิร์นลีย์ 6-0
แมนยู vs ฟูแล่ม
หลังจากที่แมนซิตี้สามารถผ่านเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายเอฟเอคัพได้แมนยูก็ไม่น้อยหน้าสามารถเอาชนะฟูแล่มและผ่านเข้าสู่รอบ 4 ทีมได้เช่นเดียวกัน
โดยการแข่งขันในช่วงครึ่งแรกไม่มีประตูประตูแรกเกิดขึ้นในช่วงนาทีที่ 50 ของครึ่งเวลาหลังโดยทีมเยือนฟูแล่มเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อนจากลูกเตะมุมอันเดรียส เปเรร่าโยนบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษอเล็กซานดาร์ มิโตรวิชเป็นคนสังหารประตูเข้าไปทำให้ทีมฟูแล่มขึ้นนำ 1-0 แต่แล้วทีมแมนยูก็ได้ลูกจุดโทษจากการทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษของวิลเลี่ยนและถูกใบแดงไล่ออกจากสนามไป บรูโน่ เฟอร์นันเดสเป็นคนสังหารจุดโทษให้ทีมแมนยูกลับมาตีเสมอได้ในนาทีที่ 75 นอกจากวิลเลี่ยนที่โดนใบแดงไปผู้ทำประตูอย่างมิโตรวิชก็โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไปด้วยเช่นเดียวกันทำให้ทีมฟูแล่มนั้นไม่สามารถต้านทานการบุกของแมนยูไว้ได้ด้วยจำนวนผู้เล่นที่น้อยกว่าและสุดท้ายก็เสียประตูที่ 2 ในนาทีที่ 77 จากการยิงของมาร์เซล ซาบิตเซอร์ และจบด้วยการยิงประตูคว้าชัยของ บรูโน่ เฟอร์นันเดสนานๆ ทีที่ 90+5 ทำให้แมนยูสามารถเก็บชัยชนะเอฟเอคัพนัดนี้ด้วยสกอร์ 3-1
ไบรท์ตัน vs กรีมสบี้
ถือได้ว่าเป็นรอบ 8 ทีมฟุตบอลเอฟเอคัพที่ไม่ใช่งานหนักของไบรท์ตันที่กำลังฟอร์มดีโดยในเกมนี้สามารถไล่ถล่มคู่แข่งอย่างกรีมสบี้ไปได้ด้วยสกอร์ 5-0
เริ่มเกมการแข่งขันมาได้เพียง 6 นาทีทีมไบรท์ตันได้ประตูขึ้นนำจากการยิงของเดนิซ อุนดาฟ ซึ่งเป็นเพียงประตูเดียวที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งเวลาแรก ในช่วงครึ่งหลังไบรท์ตันบุกใส่คู่แข่งอยู่ฝ่ายเดียวและได้ประตูขึ้นนำ 2-0 จากอิวาน เฟอร์กูสันในนาทีที่ 51 ต่อมาอิวาน เฟอร์กูสันคนเดิมได้สังหารประตูที่ 3 ให้กับทีมไบรท์ตันในนาทีที่ 70 ถัดจากนั้นนาทีที่ 82 โซลลี่ มาร์ชยิงให้ทีมไบรท์ตันทิ้งห่างกรีมสบี้ 4-0 และปิดท้ายด้วยคาโอรุ มิโตมะที่ใส่สกอร์ที่ 5 ให้กับทีมไบรท์ตันในนาทีที่ 90
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด vs แบล็คเบิร์น
การแข่งขันนัดนี้เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดสามารถเอาชนะทีมแบล็คเบิร์นไปได้ด้วยสกอร์ 3-2 โดยทีม แบล็คเบิร์นสามารถขึ้นนำได้ก่อนในนาทีที่ 21 จากการยิงจุดโทษของเบน เบรเรตัน ดิแอซ ก่อนที่แซม กัลลาเกอร์จะทำบอลเข้าประตูตัวเองในนาทีที่ 28 ทำให้ทั้ง 2 ทีมกลับมาเสมอกันในช่วงครึ่งแรก
ครึ่งหลังนาทีที่ 60 แบล็คเบิร์นขึ้นนำอีกครั้งจากการยิงของแซมมี่ ซโมดิกส์ แต่แล้วทีมเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดก็สามารถไล่ตีเสมอได้ในนาทีที่ 80 จากโอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บโทมัส ดอยล์ก็ยิงประตูปิดกล่องให้เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดสามารถพลิกกลับมาชนะ แบล็คเบิร์น 3-2 ผ่านเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายเอฟเอคัพ
ชมไฮไลท์ของการแข่งขันได้ที่ BeIN Sports Thailand
ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ sportintrends.com
FB : Sport lover
