การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 แม้จะปิดฉากลงไปแล้ว แต่หากเราย้อนกลับมาดูทั้ง 4 ทีมในกลุ่ม B พวกเราจะพบว่าพวกเขาสร้างผลงานได้ดีทีเดียว แม้จะไปไม่ถึงตำแหน่งแชมป์ก็ตาม ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ด้านล่างนี้มีคำตอบรออยู่แล้ว
ทีมชาติเบลเยียม
ปีศาจแดงแห่งยุโรป นับว่าเป็นอีกตัวเต็งที่ใครหลายคนแอบเชียร์ให้ไปถึงแชมป์ เพราะขุมกำลังของพวกเขาไม่เป็นรองทีมไหนทั้งสิ้น ทำให้ในยูโร 2020 หนนี้ โรแบร์โต้ มาติเนช ใช้ระบบ 3-4-3 เป็นหลัก โดยในรอบแรกพวกเขากวาดชัยชนะ 3 นัดรวด เข้ารอบแบบสบายๆไปพบกับ โปรตุเกส ซึ่งศักยภาพของพวกเขาก็ยังโหดเหี้ยมเหมือนเคย
แต่กระนั้นก็เริ่มเห็นปัญหาเมื่อทีมขาดกองกลางชั้นดีอย่าง อาซาร์ และ เดอ บรอยน์ กระทั่งเกมกับ อิตาลี ที่เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าเมื่อตัวสร้างสรรค์คเกม 2 ราย ไม่อยู่ ปีศาจแดงตัวนี้ก็แทบไร้พิษสง จนท้ายที่สุดต้องหยุดเส้นทางไว้แค่รอบ 8 ทีม
ทีมชาติเดนมาร์ก
การเริ่มต้นทัวร์นามเมนต์ยูโร 2020 ของขุนพลนมโค ได้เกิดเรื่องช็อกขึ้นทันที เมื่อ คริสเตรียน เอริเซ่น หัวใจหยุดเต้นไปต่อหน้าต่อตา จนทำให้เกมต้องหยุดพักและกลับมาแข่งต่อ แต่สุดท้ายก็พ่ายไป 0-1 จากนั้นก็พ่ายเบลเยียม 1-2 ทำให้ถึงตอนนี้โอกาสตกรอบมีมากถึง 80% แต่สุดท้ายพลังนมโค ก็สู้ตายด้วยการถล่ม รัสเซีย 4-1 ส่วนในรอบน็อคเอาท์ พวกเขาผ่าน เวลส์ เช็ก และมาพ่ายอังกฤษ ในรอบรองชนะเลิศ นอกจากนี้หากใครสังเกตให้ดีจะพบว่าการเล่นระบบ 4-3-3 กับ 4-2-3-1 ผลงานจะไม่ค่อยดี แต่พอมาใช้ระบบ 3-4-3 ผลงานของพวกเขากลับไฉไลเป็นบ้า ฉะนั้นการแก้ลำกลางศึกเช่นนี้ จึงนับเป็นการซื้อหวยที่ถูกใบอย่างแท้จริง
ทีมชาติฟินแลนด์
นกกระจอกเทศ มาร่วมแข่งขันรายการใหญ่เป็นครั้งแรก ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาเป็นรองทุกทีมในสาย ทำให้การเล่นของพวกเขาต้องมาแบบรัดกุมในระบบ 3-5-2 หรือ 5-3-2 แล้วรอโต้กลับโดย 2 กองหน้าซุปตาร์อย่าง ปุ๊กกี้ กับ มาร์คุส ฟอร์สส์ โดยชัยชนะ 1 นัด จาก เดนมาร์ก เกือบทำให้พวกเขาได้เข้ารอบ แต่นัดสุดท้ายดันโดน เดนมาร์ก คนนี้ปาดหน้าแซงไปแบบเจ็บใจ
ทีมชาติรัสเซีย
หมีขาว มาในเวอร์ชั่นถ่ายเลือดใหม่ ทำให้ตลอด 3 นัด มีการปรับระบบไปมา อีกทั้งการเล่นยังดูไม่เข้าที่ เช่น เกมรับมีช่องให้คู่แข่งเล่นงานทุกเมื่อ เกมรุกยังไม่ค่อยสัมพันธ์กัน ทำให้ผลงานที่ออกมาไม่เข้าตา สุดท้ายต้องตกรอบในฐานะบ๊วย
ติดตามบทความเรื่อง ข่าวกีฬา ออกกำลังกาย และอุปกรณ์กีฬาได้ที่ ข่าวกีฬา
เวปไซด์ sportintrends.com
