แมน ซิตี้ กับการปาดหน้าเพื่อนบ้านอย่าง แมนยู คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2011/12

แมน ซิตี้

จนถึงขณะนี้ สถานการณ์ของแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2020/21 กำลังจะได้บทสรุปแบบ 100% แล้ว เพราะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำแต้มขาดจากรองจ่าฝูงอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปไกลลิบ แต่หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2011/12

ในยุคที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงครองความยิ่งใหญ่ แต่ก็ถูกท้าทายจากทีมมหาอำนาจใหม่อย่าง แมน ซิตี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันได้แปรเปลี่ยนเป็นความเมามันส์และสูสีถึงขีดสุด จนกลายเป็นเหตุการณ์ปาดหน้าคว้าแชมป์ที่ประวัติศาสตร์ต้องจดจำ 

ในยุคสมัยนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือ มหาอำนาจของลูกหนังอังกฤษ ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกจนเบื่อ โดยในฤดูกาลดังกล่าวเป็นปีรองสุดท้ายของ เฟอร์กี้ ในฐานะผู้จัดการทีม ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือ ทีมเล็กๆในลีก ที่ขึ้นๆลงๆระหว่างลีกสูงสุดกับลีกรอง

อีกทั้งการคว้าแชมป์ลีกหนล่าสุดก็เกิดขึ้นเมื่อ 44 ปีก่อน แต่หลังจากได้กลุ่มทุนอาหรับเข้ามาหนุนทีม สโมสรก็กลายสภาพเป็นผู้มีฐานะร่ำรวย จนกลายเป็นทีมใหญ่ในพริบตา กระทั่งก้าวขึ้นมาท้าทายกับเพื่อนร่วมเมืองอย่าง ปีศาจแดง และทีมชั้นนำอื่นๆในลีก

การแข่งขันในช่วงต้น จนถึงช่วงปีใหม่ของฤดูกาลดังกล่าว ดำเนินไปอย่างสนุกเร้าใจ เพราะ 2 ทีม จากเมืองแมนเชสเตอร์ ต่างทำแต้มแข่งกันแบบไม่มีใครยอมใคร แต่แล้วเมื่อการแข่งขันผ่านเลกแรก ผู้ท้าชิงอย่าง แมนซิตี้ เริ่มออกอาการยืนระยะไม่อยู่

ดังจะเห็นได้จากผลการแข่งขันที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ในขณะเดียวกันขาใหญ่ที่เก๋าประสบการณ์อย่าง แมนยู กลับมีความนิ่งและยืนระยะได้อยู่ พร้อมกับทำแต้มทิ้งห่างไปเรื่อยจนถึง 6 นัดสุดท้าย มีระยะห่างจากเรือใบสีฟ้า 8 แต้ม นั่นจึงทำให้สาวกปีศาจแดงต่างมั่นใจว่าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม 

ในช่วง 6 นัดสุดท้าย กับระยะห่าง 8 แต้ม ที่ แมนยู ได้เปรียบเพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญ มันกลับลายเป็นความความประมาทและอุบัติเหตุทางลูกหนังผสมกัน เพราะลูกทีมของเฟอร์กี้ ออกไปพ่าย วีแกน 0-1, เสมอ เอฟเวอร์ตัน 4-4 และแพ้ แมนซิตี้ 1-0 นั่นจึงทำให้แต้มของทั้ง 2 ทีม เท่ากันที่ 86 แต้ม

แต่ทัพเรือใบสีฟ้าได้เปรียบตรงที่มีประตูได้เสียดีกว่า ก่อนที่เกมนัดสุดท้าย แมนซิตี้ พบกับ ควีนปาร์ค เรนเจอร์ ที่ต้องการแต้มเพื่อหนีตกชั้น และ แมนยู พบกับ ซันเดอร์แลนด์ ที่อยู่รอดปลอดภัยและไม่มีลุ้นอะไร    

ทางฝั่งของ แมนซิตี้ เกมนี้ออกสตาร์ทเหมือนจะดีจากการออกนำไปก่อน แต่แล้วก็มาถูกทีมเยือนยิงแซงเป็น 1-2 เสียอย่างนั้น ขณะที่อีกคู่ แมนยู บุกไปนำ ซันเดอร์แลนด์ 0-1 จนจบเกมด้วยสกอร์นี้และจบไปก่อนราว 3 นาที ส่วน แมนซิตี้ อยู่ในช่วงท้ายเกมและทดเวลา 5 นาที พร้อมกับสกอร์ที่ยังตามอยู่ 1-2 โดยแม้ว่าช่วงทดเจ็บนาทีแรกจะตีเสมอ 2-2 ก็ยังไม่เพียงพอ กระทั่งนาทีที่ 93 นักเตะเรือใบสีฟ้าพยายามจะพาบอลขึ้นมา จนสุดท้าย กุน อเกวโร่ แตะบอลแล้วยิงเสาแรกเข้าไป แมนซิตี้ พลิกกลับมานำ 3-2 ทำให้ครบ 38 นัด 2 ทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ มีแต้มเท่ากันที่ 89 แต้ม แต่ แมนซิตี้ มีประตูได้เสียที่ดีกว่า 9 ลูก จึงคว้าแชมป์ไปครอง 

การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2011/12 จึงนับเป็นแชมป์แรกในรอบ 44 ปี ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจากทีมฝั่งสีแดงบดบังความสำเร็จมานานแสนนาน อีกทั้งยังเป็นการคว้าแชมป์ที่สุดแสนจะระทึกใจแก่ผู้ชนะ เพราะมีเหตุการณ์ที่พลิกไปพลิกมาอยู่หลายรอบ แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างบาดแผลให้กับผู้แพ้ เพราะมันเป็นการชวดแชมป์ที่เสมือนกับการถูกชิงถ้วยไปจากมือในวินาทีสุดท้ายของเกมการแข่งขัน

#แมนเชสเตอร์ ซิตี้ #เรือใบสีฟ้า #แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด #ปีศาจแดง #ควีนปาร์ค เรนเจอร์ #ซันเดอร์แลนด์ #ข่าวกีฬา  #sportintrends.com

Facebook
Twitter