วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล บุกไปกระซวกเบิร์นลีย์ 3-0 กระโดดขึ้นท็อปโฟร์

ลิเวอร์พูล

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดรองสุดท้าย เบิร์นลีย์ ที่รอดตกชั้นแล้ว เปิดรังเทิร์ฟมัวร์รับ ลิเวอร์พูล ที่ต้องการ 3 แต้ม เพื่อขึ้นโฟร์เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน หลังจาก เลสเตอร์ ซิตี้ พ่ายไปก่อนแล้วเมื่อคืน สำหรับผังการเล่น เจ้าบ้านมาในระบบ 4-4-1-1 โดยตำแหน่งผู้รักษาประตูใช้มือ 3 อย่าง วิลล์ นอร์ริส  เนื่องจาก นิค โป๊ป และ ไบลีย์ พีค็อก-แฟร์เรลล์ ถูกอาการบาดเจ็บเล่นงาน ส่วนฝั่งทีมเยือนมาในระบบ 4-3-3 พร้อมกับการมีชื่อของ ไวจ์นัลดุม ยืนคุมแดนกลาง

ด้วยความที่ เบิร์นลีย์ ไม่มีความกดดัน จึงทำให้การเล่นไม่ได้มีเพียงแค่การอุดประตู หากแต่มีการเปิดเกมรุกโจมตีไปถึงหน้ากรอบเขตโทษของทีมเยือนเป็นระยะ แต่ก็ไม่ถึงขั้นจะยิงประตูได้ ส่วน ลิเวอร์พูล เปิดเกมบุกใส่ตามสูตร แต่สิ่งที่จะเห็นได้ชัด คือ ใช้โอกาสจบสกอร์สิ้นเปลื้อง เพราะการยิง 12 ครั้ง ในครึ่งแรก ไม่เข้ากรอบเลย

จนครั้งที่ 13 ซึ่งเป็นการยิงตรงกรอบครั้งแรก ก็ได้ประตูขึ้นนำ 0-1 ถึงกระนั้นหากดูวิถีของลูกบอล ก็อาจกล่าวได้ว่า วิลล์ นอร์ริส มีส่วนผิดพลาด เพราะบอลพุ่งเข้าหาตัว แต่ปัดไม่ออกเอง

ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ยังคงเดินหน้าต่อ จนมาได้ลูกนำ 0-2 ซึ่งเป็นผลพวงมาจากจังหวะเตะมุม โดยจังหวะดังกล่าว มาเน่ เปิดมากลางประตูให้ แนท โหม่ง แล้วก็เป็นอีกครั้งที่โกว์มือ 3 ของเจ้าบ้านพลาด เพราะวิถีของลูกเข้ากลางประตู แต่ปัดไม่ออก จากนั้นเกมก็มีแลกกันอยู่เนืองๆ กระทั่งหงส์แดงมาบวกเพิ่ม 0-3 และจบเกมด้วยสกอร์นี้

บทสรุปจากเกม เบิร์นลีย์ ในส่วนของแนวรุกทำได้ดี แต่ไม่มีสกอร์เท่านั้น ขณะที่เกมรับโดยเฉพาะผู้รักษาประตู นับเป็นปัจจัยสำคัญให้ทีมพ่ายแพ้ เพราะศักยภาพที่ยังห่างชั้นกับโกว์มือ 1 และ 2 ของทีม ซึ่งถ้าหาก นิค โป๊ป ลงเกมนี้ ทีมเยือนอาจยิงได้แค่ 1 ลูก เท่านั้น

เพราะนายทวารทีมชาติอังกฤษรายนี้ ถ้าไม่สุดวิสัยจริงๆ ก็เซฟกระจุยกระจาย ส่วนฟากของ ลิเวอร์พูล เกมรับยังมีจุดรั่วให้เห็นจาก รีส ขณะที่ แนท เล่นได้ท็อปฟอร์ม จนสมควรที่จะได้เป็นแมนออฟเดอะแมตช์ ถัดมา ติอาโก้ อาคันทาร่า นับเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางเสียแล้ว

เพราะบทบาทในการคุมเกมและจ่ายบอล ที่ดาวเตะชาวสเปนจะเป็นผู้เริ่มต้นในทุกจังหวะ สุดท้าย 3 พระกาฬแดนหน้า โดยเฉพาะ มาเน่ ยังหาทางกลับฝั่งไม่เจอ ยังดีที่วันนี้มีลูกจ่ายให้ แนท ปลอบใจ

#ลิเวอร์พูล #หงส์แดง #เบิร์นลีย์ #เดอะคลาเรตส์ #ข่าวกีฬา #sportintrends.com

Facebook
Twitter