ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดรองสุดท้ายของฤดูกาล ณ สนามฮอว์ทอนส์ รังเหย้าของ เวสต์บรออมวิช ซึ่งเมื่อวันอาทิตย์โดน ลิเวอร์พูล โขกประตูชัยในวินาทีสุดท้ายของเกมจาก อลิสซง เบคเกอร์ ส่วนวันนี้รับมือกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ยังคงมีลุ้นตั๋วบอลยุโรปอยู่ แต่เงื่อนไขสำคัญ คือ ต้องเก็บชัยชนะให้ได้ สำหรับผังการเล่นของเจ้าบ้านมาในระบบ 4-4-1-1 ส่วนทีมเยือนวางผัง 4-2-3-1
การแข่งขันเริ่มไปได้เพียงนาทีเดียว ผู้เล่นเวสต์บรอมวิช จ่ายบอลคืนหลังเบาเกินไป ทำให้ อันโตนิโอ ได้บอลและหลุดเดี๋ยว สุดท้าย แซม จอห์นสโตน ไปเบรกทำฟาว์กลายเป็นจุดโทษ แต่ เดแคลน ไรซ์ ก็ยิงเน้นเกินไปจนบอลชนเสาอย่างจัง สกอร์จึงยังไม่ขยับ
จากนั้นทั้ง 2 ทีม พยายามใช้การโจมตีจากบอลริมเส้น กระทั่งประตูขึ้นนำของ เวสต์บรอมวิช ที่มาจากลูกเตะมุม ซึ่งวิถีของลูกที่เปิดเข้าไปบริเวณเสาแรก อยู่ในจุดเกรงใจระหว่างกองหลังกับผู้รักษาประตู ทำให้บอลพุ่งเข้าประตูไป
หลังจากเจ้าบ้านขึ้นนำ ผู้เล่นเวสต์แฮม ดูจะสมาธิแกว่งๆไป จนถูก เวสต์บรอมวิช บุกกดัน ซึ่งยังโชคดีที่รอดตัวจากการถูกยิงทิ้งห่าง 2-0 มาได้ จากนั้นช่วง 5 นาทีสุดท้ายก่อนจบครึ่งแรก ลูกทีมของมอยส์ก็กลับมาตั้งหลักและบุกใส่ลูกทีมของแซมอีกครั้ง จนมาได้ประตูตีเสมอ 1-1
เกมในครึ่งหลัง เวสต์แฮม พยายามงัดจุดเด่นในเรื่องการโจมตีทางอากาศมาเล่นงานให้หนักและถี่ขึ้น ไม่ว่าจะจาก โอเพนเพลย์ ฟรีคลิก หรือเตะมุม ซึ่งว่าจะมาพังประตูได้สำเร็จก็ต้องรอถึงนาทีที่ 82 จากลูกเตะมุม
โดยในจังหวะดังกล่าวแนวรับ เวสต์บรอมวิช ปล่อยให้ อ็อกบอนน่า ได้โขกโล่งๆ จากนั้น เดอะแบกกี้ พยามโหมบุกเพื่อเอาประตูคืน แต่ด้วยสภาวะหลังดันสูง ทำให้ถูกขุนค้อนสวนกลับพร้อมกับประตูฝัง 1-3
บทสรุปจากเกม เวสต์บรอมวิช ยามเจอกับทีมที่ไม่ใหญ่ มักขาดแรงจูงใจจนก่อให้เกิดความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ซึ่งนี่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ เดอะแบกกี้ ไม่สามารถอยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ขณะที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด การเป็นทีมเล็กแต่มีความคาดหวังในเป้าหมาย จะเห็นได้ชัดว่ามีความกดดันจนกลายเป็นความเกร็ง
ซึ่งมันส่งผลให้ฟอร์มการเล่นมีช่วงเวลาที่แกว่งเป็นพักๆ แต่ถึงกระนั้นยังดีที่สามารถเรียกสติกลับมา จนคว้า 3 แต้มได้ตามเป้าหมาย ส่วนจะได้ไป ยูโรป้าลีก หรือ ยูโรเปี้ยนส์ คอนเฟอเรนท์ลีก ก็ล้วนแต่เป็นโบนัสทั้งสิ้นสำหรับขุนค้อน
#เวสต์แฮม ยูไนเต็ด #ขุนค้อน #เวสต์บรอมวิช #เดอะแบกกี้ #ข่าวกีฬา #sportintrends.com
