สรุป ผลการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก
เข้าสู่ช่วงเวลาลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกของ 2 ทีมหัวตารางอย่างอาร์เซนอลและแมนซิตี้ โดย ผลการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก คืนวันเสาร์เป็นเกมของอาร์เซนอลที่จะต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้ นอกเหนือจากการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกการลุ้นอันดับ 4 ของแมนยูและลิเวอร์พูลก็น่าสนุกไม่แพ้กัน โดยคืนวันเสาร์มีการแข่งขันทั้งหมด 6 คู่มาดูกันดีกว่าว่าผลของการแข่งขันเป็นเช่นไร
น็อตติ้งแฮมฟอเรสต์ vs อาร์เซนอล
ปืนใหญ่อาร์เซนอลต้องการ 3 แต้มเพื่อยังสามารถลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในเกมนัดสุดท้ายที่จะแข่งขันกันในสัปดาห์หน้าแต่การต้องมาเยือนน็อตติ้งแฮมฟอเรสต์ที่กำลังหนีตายสุดชีวิตเพื่อให้อยู่รอดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้แล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
อาร์เซนอลมีโอกาสที่จะทำประตูขึ้นนำก่อน ในนาทีที่ 11 กาเบรียล เจซุสยิงไปติดเซฟเคย์เลอร์ นาวาส และถัดมาในนาทีที่ 16 เจ้าตัวก็ได้โอกาสอีกครั้งจากลูกเตะมุม แต่ก็ดันโหม่งไปชนคานทำให้อาร์เซนอลยังไม่สามารถขึ้นนำได้ ปืนใหญ่ยังคงพยายามขึงเกมบุกแต่ก็โดนเกมสวนกลับของน็อตติ้งแฮมฟอเรสต์ มอร์แกน กิบส์-ไวต์เป็นคนตัดบอลจากแดนกลางก่อนที่จะเลี้ยงขึ้นมาและส่งต่อให้โตไว อโวนิยี่เป็นคนสังหารประตูขึ้นนำให้กับน็อตติ้งแฮมฟอเรสต์ และก็เป็นเพียงประตูเดียวที่เกิดขึ้นในครึ่งแรกในครึ่งหลังอาร์เซนอลไม่สามารถยิงประตูตีเสมอได้ทำให้จบเกมน็อตติ้งแฮมฟอเรสต์ชนะอาร์เซนอล 1-0
จากความพ่ายแพ้ในนัดนี้ทำให้อาร์เซนอลแข่งไปทั้งหมด 37 มีคะแนนรวม 81 คะแนน จะเหลือการแข่งขันเพียงอีกแค่นัดเดียวยังไงก็ไม่สามารถไล่ตามแมนซิตี้ได้ทันโดยเรือใบสีฟ้ามีคะแนนอยู่ที่ 85 แต้มก่อนจะลงทำการแข่งขันในวันอาทิตย์ ส่งผลให้แมนซิตี้กลายเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้และเป็นแชมป์ 3 สมัยติด
บอร์นมัธ vs แมนยู
บอร์นมัธที่รอดตกชั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วต้องมาเจอกับแมนยูที่ยังคงหวังท็อปโฟร์พรีเมียร์ลีกเกมนี้ผีแดงต้องการ 3 แต้มสถานเดียวเพื่อทำแต้มหนีห่างลิเวอร์พูลที่มาในอันดับที่ 5 ซึ่งลูกทีมของเอริค เทน ฮากก็ทำได้ตามเป้าหมาย
ครึ่งแรกเริ่มต้นการแข่งขันมาได้ไม่นานแมนยูเปิดเกมบุกใส่ทีมบอร์นมัธเจ้าบ้านและในนาทีที่ 8 คริสเตียน อีริคเซนโยนบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้คาเซมิโร่เกี่ยวบอลและตวัดยิงทำประตูขึ้นนำให้กับแมนยูได้อย่างรวดเร็ว และนั่นก็เป็นประตูเดียวในเกมนี้ทำให้จบเกมแมนยูสามารถเอาชนะบอร์นมัธไป 0-1
จากชัยชนะในเกมนี้ทำให้แมนยูสามารถที่จะเก็บเพิ่ม 3 แต้มขึ้นไปมี 69 คะแนนเพิ่มช่องว่างระหว่างอันดับ 5 อย่างลิเวอร์พูลได้และเพิ่มโอกาสการไปเล่นฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลหน้าแต่ก็ยังเหลือการแข่งขันอีก 2 นัดถ้าหากว่าพลาดก็มีสิทธิ์ที่จะไม่จบ 4 อันดับแรกเช่นเดียวกัน
ลิเวอร์พูล vs แอสตันวิลล่า
ลิเวอร์พูลฟอร์มร้อนแรงชนะมา 7 นัดรวดในพรีเมียร์ลีกอังกฤษก่อนจะมาเจอแอสตันวิลล่า และเกมนี้ทัพหงส์แดงก็ยังคงต้องการแต้มเพื่อลุ้นโควต้าฟุตบอลแชมป์เปียนลีก แต่เกมนี้เกือบจะกลายเป็นเกมที่ส่งผลให้ลิเวอร์พูลต้องเล่นฟุตบอลยูฟ่ายูโรป้าลีก
เริ่มต้นการแข่งขันในนาทีที่ 20 โอลลี่ วัตคินส์โดนทำฟาวในกรอบเขตโทษก่อนจะได้ลูกจุดโทษแต่เจ้าตัวก็ดันยิงไม่เข้า ทำให้เกมยังคงเสมอกัน แต่ก็ยังคงโดนเกมรุกของแอสตันวิลล่าขึงเอาไว้จนมันเสียประตูในนาทีที่ 27 จากเจคอบ แรมซีย์ แล้วก็จบครึ่งแรกด้วยกันนำของแอสตันวิลล่า 0-1
ครึ่งหลังลิเวอร์พูลได้โอกาสยิงประตูตีเสมอในนาทีที่ 55 แต่หลังจากที่เช็ค VAR แล้วเวอร์จิล ฟาน ไดจ์คเป็นคนแอสซิสประตูนี้อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าทำให้ลิเวอร์พูลไม่ได้ประตูตีเสมอ หลังจากนั้นลิเวอร์พูลก็เปลี่ยนตัวสำรองให้โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ลงมาในตำแหน่งกองหน้าเพื่อหวังประตูตีเสมอและตัวเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังสามารถยิงประตูตีเสมอให้กับทีมได้ในนาทีที่ 89 ทำให้จบเกมลิเวอร์พูลเสมอแอสตันวิลล่า 1-1
ลูกยิงของโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่เป็นลูกสุดท้ายที่เขาจะได้ยิงในถิ่นแอนฟิลด์เพราะหลังจากจบฤดูกาลนี้ตัวเขาจะหมดสัญญากับทีม และประตูสุดท้ายของเขานั้นก็ทำให้ลิเวอร์พูลสามารถเก็บเพิ่มได้อีก 1 แต้มและยังมีลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ในนัดสุดท้ายของการแข่งขันแต่ก็ต้องลุ้นให้แมนยูพลาดถึง 2 นัดด้วยกัน อย่างไรก็ตามโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ก็ได้กลายเป็นนักเตะที่จะอยู่ในใจของแฟนคลับหงส์แดงอย่างแน่นอน
ผลการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก คู่อื่น ๆ
ท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์ 1-3 เบรนท์ฟอร์ด
วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-1 เอฟเวอร์ตัน
ฟูแล่ม 2-2 คริสตัลพาเลซ
ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ sportintrends.com
FB : Sport lover
