ตัดเกรดผู้เล่นลิเวอร์พูล

ในเกมดวลจุดโทษชนะ เชลซี 6-5 คว้าแชมป์ FA Cup สมัยที่ 8

ศึกฟุตบอล FA Cup ประจำฤดูกาล 2021/22 รอบชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล ฝ่าด่านเข้ามาดวลกับ เชลซี ก่อนจะเป็นหงส์แดงที่แม่นโทษกว่าด้วยสกอร์ 6-5 ซึ่งการคว้าถ้วยมีฝาเป็นสมัยที่ 8 นี่ ก็ไม่ลืมที่จะมาให้คะแนนแบบเรียงตัวเหมือนเคย

อลิสซง (9)

เล่นได้ตามมาตรฐาน โดยถึงแม้ว่าจะเซฟไม่เยอะ แต่จังหวะการเซฟล้วนสำคัญทั้งสิ้น แล้วที่สำคัญที่สุด คือ การดวลจุดโทษที่เดาทางถูกหลายลูกและเซฟได้แบบเต็มมือ ซึ่งโดยภาพรวมแล้วพ่อหมีสมควรเป็นแมนออฟเดอะแมตช์เสียด้วยซ้ำ

โรเบิรต์สัน (7)

เติมสุดทางตามความถนัด พร้อมกับมีลูกเปิดที่น่าจะเป็นประตู ส่วนที่น่าเสียดายที่สุด คือ มีโอกาสยิงจ่อๆ แต่ดันชนเสาเสียอย่างนั้น

เทรนต์ (7)

มีจังหวะที่หุบเข้ามาเล่นด้านใน แถมมีจังหวะเบิ้ลจ่ายสวยๆให้ ซึ่งหากเพื่อนเฉียบคมกว่านี้ มันควรจะเป็นประตูไปแล้ว ส่วนในเรื่องของเกมรับ ยังมีภาพของการปล่อยปะให้คู่แข่งยืนสบายอยู่

ฟานไดค์ (7)

เกมรับทำหน้าที่ได้ดี แต่พอเป็นจังหวะ 50 50 เจ้าตัวมักใช้การยืนประคอง ซึ่งมันน่าจะมาจากการอาการบาดเจ็บตามที่คล็อปป์กล่าวหลังเกม

โกนาเต้ (8)

ถูกส่งลงมาเพื่อดูแล ลูกากู โดยเฉพาะ แล้วสามารถทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งช่วงต่อเวลาพิเศษก็ต้องขยับมาเล่นในตำแหน่งของ ฟานไดค์ แล้วทำหน้าที่ได้ดีแบบไม่มีข้อติเช่นกัน

เฮนเดอร์สัน (7)

ยืนในตำแหน่งกองกลางตัวรับ ซึ่งการตัดเกมคู่แข่งอาจจะไม่โดดเด่น แต่การเก็บบอล ขึ้นเกม และแจกจ่ายบอล ถือว่าทำได้ดี

เกอิต้า (7)

พอ ซาลาห์ ต้องออกไป บทบาทของเจ้าตัวถูกสั่งให้เติมสูงทางฝั่งขวา แต่ด้วยความเร็วไม่ใช่จุดเด่นของเจ้าตัว นาบี จึงเหมือนแค่ประคองและถูกเปลี่ยนตัวออก

อาคันทาร่า (7)

การแจกจ่ายบอลในวันนี้ไม่ค่อยอันตรายมากนัก ส่วนที่เหลือก็ยังช่วยไล่บอลได้ดี อีกทั้งการยิงลูกโทษก็ได้โชว์ความนิ่งให้เห็น

ซาลาห์ (5)

ไม่ค่อยได้บอล หรือเมื่อได้บอลก็เก็บไว้ไม่ได้ แล้วเพียงครึ่งชั่วโมงก็ได้ประสบอาการเจ็บโค่นขาหนีบจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออก

ดิอาช (5)

บอลมาถึงตัวเยอะ แถมมีโอกาสยิงเหน่งๆหลายหน แต่ก็ยิงติดเซฟ ยิงออก ขณะที่ครึ่งหลัง พอโดนตั้นก็เสียจังหวะไปหมด ซึ่งน่าแปลกใจว่าทำไมถึงได้รับเลือกให้เป็นแมนออฟเดอะแมตช์

มาเน่ (6)

รับบทบาทเป็นหน้าเป้า มีการล้วงบอลและลากไปแจกจ่ายได้ดี แต่การจบสกอร์ไม่ดี โดยเฉพาะท้ายเกม ที่จะเห็นชัดว่าหมดทั้งแรงและไอเดีย รวมถึงการยิงจุดโทษที่เกือบเป็นฝันร้าย

โชต้า (6)

ถูกส่งลงมาเล่นในตำแหน่งหน้าฝั่งขวา แต่เล่นยังไงก็ไม่โดดเด่นเหมือนตอนยืนหน้าเป้า ส่วนจุดโทษยิงได้ฉมังพอสมควร

มิลเนอร์ (7)

ถูกส่งลงมายืนแทน นาบี แล้วทำหน้าที่ได้ดีกว่า แม้จะไม่เทียบเท่ากับ ซาลาห์ ก็ตามที ส่วนในการยิงจุดโทษ ไม่มีคำว่าพลาดสำหรับมิลลี่

มาติป (7)

ลงมาเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งก็ยืนได้ดี สกัดบอลได้ และงานไม่หนักเท่าไร

ฟีร์มิโน่ (6)

ลงมาเพื่อเพิ่มความสด แต่ไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไร ส่วนการยิงจุดโทษก็ยิงแบบนนิ่มๆเข้าไป

ซิมิกาส (8)

เป็นผู้เล่นคนสุดท้ายที่ถูกส่งลงมา ซึ่งยังไม่มีจังหวะสัมผัสบอลเท่าไรนัก แต่การต้องเป็นคนยิงจุดโทษเพื่อตัดสินแชมป์ ถือเป็นอะไรที่กดดันมาก แต่แบ็คสายเบิรน์ผู้นี้ก็ยิงเข้าไปแบบเก๋าๆ

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ sportintrends.com