ฌูอัน ลาปอร์ตาประธานสโมสรที่ทำให้เมสซี่หลุดมือ

ฌูอัน ลาปอร์ตา

ฌูอัน ลาปอร์ตาประธานสโมสรที่ทำให้เมสซี่หลุดมือ เป็นแพะหรือเป็นคนผิดจริง?

ตั้งแต่ 7 มีนาคมเป็นต้นมา (2021) ฌูอัน ลาปอร์ตา นั่งแท่นเก้าอี้ประธานสโมสรบาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่อันดับหนี่งของโลก ซี่งนับเป็นครั้งที่สองหลังจากผ่านมากกว่าสิบปี 

สิ่งแรกที่ลาปอร์ตาประกาศก็คือ เขาจะทำทุกวิถีทางที่จะทำให้เมสซี่สตาร์ดังที่เป็นสัญลักษณ์ของบาร์ซ่าต่อสัญญากับสโมสร 

แต่ตอนนี้ดูเหมือนลาปอร์ตาจะตกเป็นผู้ต้องหาสำคัญในการเสียเมสซี่ให้กับเปแอสเช

เมสซี่ต้องอำลาบาร์ซ่า

อย่างที่น่าจะทราบกันแล้วว่าสาเหตุของการไม่สามารถต่อสัญญาได้ เนื่องมาจากกฏลาลีก้าเกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์ของรายรับต่อรายจ่ายที่จะนำมาใช้ในการซื้อนักเตะหรือต่อสัญญา ทำให้เกิดปัญหาเพราะว่ารายรับของบาร์เซโลน่าทุกวันนี้ที่ถดถอยลงมากจากสถานการณ์โควิดมีไม่พอให้กับการต่อสัญญากับเมสซี่ แม้ว่าเมสซี่จะลดค่าเหนื่อยลง50%แล้วก็ตาม ก็ยังขาดรายรับไปอีกประมาณ 200 ล้านยูโรถึงจะพอให้ดีลนี้เกิดขึ้นได้

แต่เพราะว่าก่อนหน้านี้ทางประธานลาลีก้าเคยบอกว่าจะช่วยหาทางให้กับเมสซี่และบาร์เซโลน่าในการได้ทำงานด้วยกันต่อ ทำให้ประชาสังคมเริ่มทัวร์ลงประณาม ฆาเวียร์ เตบาส ประธานลาลีก้า

เตบาส ชิ่งหลบ เผยข้อมูลว่าทางออกมีแต่ ลาปอร์ตาไม่ทำ

เมื่อทัวร์ลงหนักเตบาสก็เผยออกมาว่า อันที่จริงหากลาปอร์ตายกมือสนับสนุนให้ CVC กองทุนที่ลงทุนในการกีฬาซื้อหุ้น10% ของลาลีก้าซึ่งมีมูลค่า 3พันล้านยูโรและตกลงออกจากซูเปอร์ลีกที่จัดขึ้นกันเองในกลุ่มทีมยักษ์ใหญ่ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถต่อสัญญากับทางเมสซี่ได้แล้ว

งานนี้เตบาสฟาดใส่ลาปอร์ตาเพื่อหลบกระสุนทั้งยังพาดพิงไปยัง ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรรีลมาดริดว่าเป็นคนชักชวนให้ลาปอร์ตาล้มดีลใหญ่นี้ด้วยกัน

ดังนั้นทัวร์จึงลงกลับมาที่ลาปอร์ตา ว่าไหนบอกว่าไม่มีทางแก้ไขได้จึงต้องปล่อยเมสซี่ไป

ข้อตกลงฟังดูดีแต่มีปลีกย่อย

ดุเผินๆเหมือนว่าทำเพียงแค่นั้นก็ได้เมสซี่มาแล้ว

แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นเพราะในข้อตกลงยังมีอีกว่า บาร์เซโลน่า และรีลมาดริด ต้องเสีย10%ของรายได้จากการถ่ายทอดสดแบ่งไปเฉลี่ยให้กับสโมสรเล็กๆในลีกทั้งสูงต่ำ เป็นระยะเวลา50ปี!

นั่นหมายถึงถ้าดีดตัวเลขดูแล้วเกินกว่า 700ล้านยูโร แบบไม่คิดละเอียด (เลขจริงน่าจะเยอะกว่านี้)

และอย่าลืมว่า ลาลีก้าไม่ได้บอกว่าจะเปลี่ยนกฎเรื่องรายรับ นั่นน่าจะหมายถึงว่าการยกมือให้ลาลีก้าขายหุ้นได้ บาร์ซ่าน่าจะได้เงินมาอุดช่องว่าง 200 ล้านยูโรนั่นเอง ที่ทำให้ตัวเลขทางการเงินมีปัญญาพอจะจ้างเมสซี่ต่อ

แล้วลาปอร์ตาไม่รับข้อตกลง ทำผิดหรือถูก

เรื่องนี้บอกได้ยาก แต่ถ้าคิดคร่าวๆ การรักษานักเตะสำคัญที่สุดอย่างเมสซี่ไว้ 3 ปี แลกกับมีสัญญาทาสผูกพันไปอีก 50 ปี พร้อมกับตัวเลขที่ได้มากับเสียไปที่แตกต่างมากกว่า 500 ล้านยูโร อย่าว่าแต่เงินสองร้อยล้านที่ได้มานั้นจะเป็นตัวเลขที่เป็นตัวเงินจริงๆหรือเปล่าก็ไม่รู้

ใครเป็นประธานสโมสรก็ต้องคิดหนัก และสุดท้ายลาปอร์ตาก็ตัดสินใจไม่ตอบตกลง

และเมื่อหันมาดูข้อตกลงกับทาง CVC ที่ยื่นมา 3พันล้านยูโรให้กับทางลาลีก้า มีหลายเสียงที่มาจากสโมสรในกลุ่มซูเปอร์ลีกบอกว่านี่เป็นดีลซื้อถูกเมื่อเทียบกับอนาคตของลาลีก้าสเปน 

ดังนั้นเอาเข้าจริงๆลาปอร์ตาคือคนที่ต้องถูกตราหน้าจริงๆหรือไม่

เรื่องธุรกิจไม่เข้าใครออกใคร ลาปอร์ตาอาจทำดีที่สุดแล้ว

ไม่ใช่ว่าบทความนี้จะเข้าข้างลาปอร์ตา แต่ถ้าดูจากวิธีการของประธานลาลีก้าที่ดึงเรื่องเมสซี่เข้ามาเป็นข้อกดดันให้บาร์เซโลน่ายอมรับสัญญาที่ไม่สามารถต่อรองได้ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากในมรสุมของโควิด19 

ไม่ว่าใครก็น่าจะมองออกว่าความจริงใจของประธานลาลีก้านั้นไม่ได้มี”มาก

แต่การที่ลาปอร์ตาหักใจไม่รักษาน้ำใจแฟนบอลไว้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าเห็นด้วย เพราะที่สโมสรสามารถทำเงินมหาศาลมาถลุงเล่นได้หลายสิบปีก็มาจากการสนับสนุนของแฟนบอล 

แต่..การสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลไปแบบไม่สามารถเรียกร้องหรือต่อรองอะไรได้ไปอีก 50 ปี สำหรับองค์กรหนึ่งที่มีหน้าที่รักษาความยิ่งใหญ่(pride)ของตนเองและเหล่าแฟนบอลแล้ว มันอาจเป็นความจำเป็นที่น่าเจ็บใจ

ยังมีเรื่องเบื้องหลังที่เราไม่รู้และเชื่อว่าต้องมีอยู่

แต่ที่รู้แน่ๆ ก็คือ เมื่อครั้งเมสซี่ยังอายุเพียง 19ปี ลาปอร์ตาในขณะนั้นเป็นคนชักจูงให้จอร์จ เมสซี่ที่กำลังตัดสินใจให้ลูกชายย้ายไปอยู่กับอินเตอร์มิลานในอิตาลี ว่า

เมสซี่จะมีความสุขกับที่นี่ ถ้าย้ายไปสิ่งที่ได้จะมีเพียงเงินทอง 

“ลูกชายของคุณถูกลิขิตให้อยู่ที่นี่(บาร์ซ่า)เขาจะเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ระดับตำนาน และที่นี่เท่านั้นจึงจะมีเพื่อนร่วมทีมที่จะพาเขาไปสู่จุดนั้นได้”

และหลังจากนั้นเมสซี่ก็ได้ทั้งชื่อเสียง เกียรติยศและเงินทอง จริงๆ 

คงไม่ต้องบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างลาปอร์ตากับครอบครัวของเมสซี่นั้นเป็นอย่างไร

ดีไม่ดี..ส่วนหนึ่งที่ทำให้เมสซี่ไม่คิดจะจากไปก็เพราะการเปลี่ยนตัวประธานเป็นลาปอร์ตา 

ดังนั้นลาปอร์ตาอาจจะเป็นเพียงแพะที่รับเผือกร้อนมาจากบาร์โตเมวที่ทำไว้จนเละเทะ แล้วมาเจอกับเกมธุรกิจของลาลีก้าที่กำลังหิวเงินอยู่พอดี ก็เป็นได้!

ติดตามบทความเรื่อง ข่าวกีฬา ออกกำลังกาย และอุปกรณ์กีฬาได้ที่ ข่าวกีฬา
เวปไซด์ sportintrends.com

Facebook
Twitter