ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในส่วนของคู่วันเสาร์ นอริช ซิตี้ ที่ออกสตาร์ทด้วยความพ่ายแพ้ 2 เกมรวด ได้กลับมาเฝ้ารังของตัวเองอีกครั้ง ซึ่งคู่ต่อกรในนัดนี้ คือ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่โดนเวสต์แฮม เผาเครื่องมา สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ปรับมายืน 4-4-1-1 ทั้งคู่
ในช่วงต้นเกม เลสเตอร์ ดูเหนือกว่าเล็กน้อย กับการเพรสซิ่งสูงและไล่บอลทุกจังหวะ โดยพวกเขาเล็งว่าเจ้าบ้านมีการต่อบอลบนพื้นไม่แม่น ไม่รวดเร็ว อีกทั้งยังใช้มุกเดิมๆด้วยการสาดบอลยาวทางริมเส้น กระทั่งเวลาผ่านไปแค่ 7 นาที ก็สามารถกระทุ้งประตูขึ้นนำ 0-1 ได้สำเร็จ แต่กระนั้นหากดูดีๆ จะพบว่าผู้เล่นของเจ้านกขมิ้นเหลืองอ่อนมีส่วนผิดพลาด เพราะบอลเข้าทางแล้ว แต่ดันจับพลาด จนโดนคู่แข่งฉกบอลไปเปิด ส่วนในกรอบเขตโทษ การยืนป้องกันหละหลวมและปล่อยให้ยืนว่าง ทำให้ทันทีที่บอลมาถึง จึงถูกลงโทษด้วยการเสียประตู
หลังจากเสียประตู นอริช พยายามจะต่อบอลและทำเกมบุกสู้ แต่มันไม่ค่อยได้น้ำได้เนื้อ อีกทั้งยังโดนสวนกลับจนเกือบเสียประตูเพิ่ม อย่างไรก็ดีในช่วงท้ายครึ่งแรก การกวาดสไลค์บอลของ โซ ยุน-ซู ดันมาถูก VAR ตัดสินให้เป็นจุดโทษ โดยหากมองจากภาพช้าแล้วสไลค์ไม่โดนบอลจริง เพราะมีขาบังอยู่ แต่ต่อให้ไม่กวาดสไลค์ ก็คงไม่ถึงขั้นลุ้นประตู เนื่องจากท่าเปิดไม่ดีแล้ว ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นดวงซวยแบบถูกกติกาของจิ้งจอกสีน้ำเงิน จากนั้น ปุ๊กกี้ สังหารเข้าไปไม่พลาด จึงตีเสมอเป็น 1-1
ครึ่งหลัง นอริช โดนกดจนเหลือแต่การเล่นบอลโต้กลับแบบนานๆครั้ง กระทั่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ก็เริ่มเกิดความรู้สึกว่า หากโดนยิงนำเมื่อไร มีโอกาสแพ้สูงอย่างยิ่ง ส่วนทางฝั่งเลสเตอร์ พยายามครองบอลให้ได้แบบเบ็ดเสร็จ พร้อมกับการต่อบอลจากหลังขึ้นมา กระทั่งมาประสบความสำเร็จจนได้ประตูนำ 1-2 จากการเซตบอลแดนหลังแล้วลำเลียงขึ้นมา ก่อนจะโยกเปลี่ยนแกนไปทางฝั่งขวาและซัดเลียดเสียบเสาไกล จากนั้น เจ้าบ้านพยายามจะมีฮึด แต่ก็ไม่สำเร็จ
ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม นอริช ซิตี้ ยังมีความผิดพลาดไม่ต่างจากเกมที่ผ่านๆมา ไล่ตั้งแต่เกมรับที่ยังคงเปิดช่องว่างให้คู่แข่งเสมอ การขึ้นบอลที่ไม่มีความแม่นยำ การเซตเกมบุกที่มีดีแค่ริมเส้น และการเข้าทำที่ยังไม่อันตรายเอาเสียเลย ฉะนั้นถึงตรงนี้หากยังแก้ไม่ได้ การตกชั้นกลับไปก็มีโอกาสมากขึ้นตามเงาตัว ส่วนทางฝั่งเลสเตอร์ ซิตี้ ฟอร์มการเล่นจัดว่าธรรมดา เพราะนี่เป็นอีกแมตช์ที่เกมรุกแทบจะพิการและไร้พิษสง อีกทั้งหากคู่แข่งไม่พลาด ผลสกอร์อาจไม่เป็นเช่นนี้
ติดตามบทความเรื่อง ข่าวกีฬา ออกกำลังกาย และอุปกรณ์กีฬาได้ที่ ข่าวกีฬา
เวปไซด์ sportintrends.com
