ลิเวอร์พูลหืดจับเกือบทำแต้มหล่น สเปอร์แดงเดือดร่วงจ่าฝูง สรุปผลการแข่งขันพรีเมียร์ลีกสัปดาห์ที่ 11 คืนวันอาทิตย์และวันจันทร์

สัปดาห์ที่ 11 สรุปผล การแข่งขันพรีเมียร์ลีกในคืนวันอาทิตย์และวันจันทร์

สัปดาห์ที่ 11 สรุปผล พรีเมียร์ลีก คืนวันอาทิตย์และวันจันทร์

สำหรับการแข่งขันพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 11 สรุปผล คืนวันอาทิตย์มีการลงทำการแข่งขันด้วยกันทั้งหมด 2 คู่โดยคู่แรกเป็นการเจอกันระหว่างน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์เจอกับทีมแอสตัน วิลล่า ส่วนอีกหนึ่งคู่ลิเวอร์พูลจะต้องออกไปเยือนทีมน้องใหม่ลูตัน ทาวน์ ในการแข่งขันคู่สุดท้ายคืนวันจันทร์เป็นศึกลอนดอนดาร์บี้แมตช์ระหว่างท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์กับเชลซี รายละเอียดของการแข่งขันคู่ต่างๆ จะเป็นอย่างไรมาติดตาม

ลูตัน ทาวน์ vs ลิเวอร์พูล

ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 11 ของลิเวอร์พูลจะต้องออกไปเยือนทีมน้องใหม่ลูตัน ทาวน์ เกมนี้ลิเวอร์พูลหืดจับเกือบทำแต้มหลุดมือไป

การแข่งขันในครึ่งแรกเริ่มต้นมาด้วยการทักทายของทีมเจ้าบ้านรอสส์ บาร์กลีย์ยิงจากนอกกรอบเขตโทษในนาทีที่ 4 แต่ตรงตัวของอลิสซอน เบ็คเกอร์ ถัดมานาทีที่ 5 ดาร์วิน นูเญซก็ทักทายทีมลูตัน ทาวน์กลับด้วยการยิงไกลแต่บอลก็ไม่ได้หนีโทมัส คามินสกีบินปัดบอลออกไปได้ ต่อมาในนาทีที่ 9 ดาร์วิน นูเญซส่องไกลอีกครั้งหนึ่งคราวนี้บอลข้ามคานออกไป ถัดมาในนาทีที่ 12 ลิเวอร์พูลเปิดเกมบุกเร็วจากปากประตูอลิสซอน เบ็คเกอร์ส่งบอลให้เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์โยนยาวไปที่ดาร์วิน นูเญซแต่งบอลแล้วยิงคราวนี้บอลไปชนคานออกหลัง ลิเวอร์พูลยังคงบุกต่อนาทีที่ 33 ดิโอโก้ โชต้าได้โดนเดี่ยวกับผู้รักษาประตูแต่ก็ยิงไม่มุมพอคามินสกีล้มตัวปัดไว้ได้ ลูตันกลับมาบุกบ้านในช่วงท้ายครึ่งแรกและเป็นรอสส์ บาร์กลีคนเดิมที่หยิ่งแต่บอลก็ข้ามคานไปอีกครั้ง จบครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมเสมอกัน

ครึ่งหลังลูต้น ทาวน์สามารถตัดบอลเกมรุกของลิเวอร์พูลและสวนกลับเร็วในนาทีที่ 64 ชีโดซี่ อ็อกเบเน่พาบอลขึ้นมาด้วยตัวเองทางด้านซ้ายและเลี้ยงจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนตบเข้ากลางให้คาร์ลตัน มอร์ริสยิงแต่อลิสซอน เบ็คเกอร์ปิดมุมและสกัดบอลไว้ได้ทันทำให้บอลออกหลังไป แล้วในนาทีที่ 69 ลิเวอร์พูลใกล้เคียงกับการขึ้นนำมากที่สุดเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์โยนบอลยาวเข้าไปหน้าปากประตูของทีมลูตัน ทาวน์โมฮาเหม็ด ซาลาห์โหม่งชงต่อให้ ดาร์วิน นูเญซ แต่เขาดันป้ายบอลข้ามผ่านออกไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากนั้นลิเวอร์พูลเริ่มโหมเกมลุกใส่ทีมลูตัน ทาวน์แต่ก็ไม่สามารถทำประตูได้จนในนาทีที่ 80 ลูต้น ทาวน์ใช้เกมสวนกับเล่นงานลิเวอร์พูลรอสส์ บาร์กลีย์พาบอลขึ้นมาก่อนเปิดไปด้านขวาให้อีซา กาโบเรเป็นคนตบบอลเข้ามาตรงกลางประตูให้ทาฮิธ ชองเข้าฮอร์สพาลูต้ัน ทาวน์ขึ้นนำ 1-0 แต่ลิเวอร์พูลไม่ถอดใจบุกเพื่อเอาประตูคืนและก็มาได้ประตูตีเสมอจากลูกโหม่งของหลุยส์ ดิอาซในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลังทำให้จบเกมลิเวอร์พูลบุกไปเสมอลูตัน ทาวน์ 1-1

สัปดาห์ที่ 11 สรุปผล การแข่งขันพรีเมียร์ลีกในคืนวันอาทิตย์และวันจันทร์

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ vs ทีมแอสตัน วิลล่า

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์จะต้องกำศึกหนักในพรีเมียร์ลีกนัดที่ 11 เจอกับทีมแอสตัน วิลล่าที่กำลังเครื่องร้อน แต่ว่าในเกมนี้กลายเป็นทีมเจ้าป่าที่ดับเครื่องทีมสิงห์ผยองได้อย่างอยู่หมัดในสนามซิตี้กราวด์บ้านของพวกเขา

การแข่งขันครึ่งแรกเริ่มต้นมาได้เพียงแค่ 5 นาทีน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ก็สามารถขึ้นนำไปได้ก่อนอย่างรวดเร็วจากลูกยิงของโอลา ไอน่าจากบริเวณนอกกรอบเขตโทษ หลังจากนั้นเป็นทาแอสตัน วิลล่าที่พยายามบุกเพื่อเอาประตูตีเสมอนาทีที่ 21 นิโคโล ซานิโอโลตวัดจากทางด้านซ้ายเข้าไปที่หน้าประตูแต่ก็ไปตรงตัวโอดิสเซอัส วลาโฮดิมอสโทรศัพท์ประตูของทีมน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ นาทีที่ 26 แอสตัน วิลล่าได้ลูกเตะมุมแล้วเลือกเล่นสั้นบริเวณมุมด้านขวาก่อนจะเป็นจอห์น แม็คกินน์เป็นคนโยนข้ามฟากมาที่ด้านซ้ายและลูว์กา ดีญพักอกก่อนที่จะยิงแต่แอนโธนี่ย์ อีแลงก้าเข้ามาสกัดไว้ได้ทัน ถัดมานาทีที่ 35 แอสตัน วิลล่ามีโอกาสอีกครั้งจากการยิงของนิโคโล ซานิโอโลแต่ก็ยังไม่หนีตัววลาโฮดิมอสทำให้ยังไม่ได้ประตู สุดท้ายแล้วจบครึ่งแรกด้วยการนำอยู่ของทีมเจ้าบ้าน 1-0

ครึ่งหลังเปิดมแอสตัน วิลล่าก็บุกใส่ก่อนแล้วจบด้วยลูกยิงโอลลี่ วัตคินส์นานนาทีที่ 46 แต่ก็ยังไม่คมพอที่จะเป็นประตู แต่ก็ยังไม่คมพอที่จะเป็นประตูหลังจากนั้นน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ก็ขึ้นเกมบุกกลับมาทางด้านซ้ายแฮร์รี่ ทอฟโฟโลโยนบอลยาวไปในกรอบเขตโทษไตโว อโวนิยีพักบอลและคืนกลับมาให้แฮร์รี่ ทอฟโฟโลย้อนกลับไปตั้งบอลที่โอเรล ม็องกาล่า และม็องกาล่าก็เลือกที่จะยิงเองจากนอกกรอบเขตโทษดาเมียน มาร์ติเนซปัดบอลไว้ได้แต่บอลสปินข้ามเส้นกลายเป็นประตูของทีมน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ หลังจากนั้นก็ไม่มีประตูเพิ่มอีกทำให้การแข่งขันเกมนี้จบลงด้วยชัยชนะของน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ด้วยสกอร์ 2-0

สัปดาห์ที่ 11 สรุปผล การแข่งขันพรีเมียร์ลีกในคืนวันอาทิตย์และวันจันทร์

ท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์ vs เชลซี

คู่สุดท้ายประจำพรีเมียร์ลีกสัปดาห์ที่ 11 เป็นเกมบิ๊กแมตช์ในศึกลอนดอนดาร์บี้แมตช์ ท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์เปิดสนามท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์สเตเดี้ยมเจอกับทีมเชลซี เกมนี้ไก่เดือยทองต้องการ 3 แต้มเพื่อกลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูง การมาเจอกับทีมเชลซีที่ตอนนี้กำลังสร้างทีมไม่ใช่เรื่องยากมากนักแต่กลายเป็นว่าเกมนี้เป็นเกมที่เดือดมาก ไม่ว่าจะเป็นการล้ำหน้า การทำฟาวล์ และประตูที่เกิดขึ้น

ครึ่งแรกท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์เปิดเกมมาด้วยความเหนือชั้นกว่าสามารถทำประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 6 จากลูกยิงของเดยัน คูลูเซฟสกี้ที่ไปแฉลบลีไว โคลวิลล์เปลี่ยนทางเข้าประตูไป เชลซีได้โอกาสสวนกลับจากการเปิดบอลพลาดของผู้เล่นทีมท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์มานาทีที่ 11 ราฮีม สเตอร์ลิงที่สามารถตัดบอลมาได้เลี้ยงจี้เข้าไปบริเวณกลางสนามและแทงบอลต่อให้นิโคลัส แจ็คสันเป็นคนยิงแต่กูลเยลโม วีการีโอผู้รักษาประตูของทีมท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์สามารถปัดไว้ได้ ต่อมานาทีที่ 13 สเปอร์ได้บุกอีกครั้งหนึ่งเบรนแนน จอห์นสันจ่ายบอลจากทางด้านซ้ายเข้าไปตรงกลางประตูให้กับซน ฮึง-มินวิ่งหนีกองหลังของทีมเชลซีเข้ามายิง บอลเข้าไปในตาข่ายแต่กรรมการให้เป็นลูกล้ำหน้าทำให้พลาดโอกาสที่จะทิ้งห่างออกไป ถัดมานาทีที่ 21 ราฮีม สเตอร์ลิงขึ้นเกมมาทางด้านซ้ายก่อนเลี้ยงจี้และยิงเองในจังหวะแรกยิงไปติดผู้เล่นของทีมท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์ บอลกระดอนมาเข้าตัวของเขาอีกครั้งหนึ่งและได้โอกาสยิงซ้ำบอลเข้าไปเป็นประตูแต่ในจังหวะเดียวกันนั้นเขาใช้มือช่วยในการประคองบอลทำให้กลายเป็นแฮนด์บอล พลาดโอกาสการตีเสมอไป ต่อมานาทีที่ 27 เชลซีได้ประตูอีกครั้งจากลูกยิงของมอยเซส ไกเซโดแต่ว่านิโคลัส แจ็คสันอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าและมีส่วนกับการเล่นในจังหวะนี้ทำให้ถูกยึดประตูคืนแต่ในจังหวะเดียวกันนั้นมีการทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษทำให้เชลซีได้ลูกจุดโทษและเป็นโคล พาล์มเมอร์ที่สังหารจุดโทษเข้าไปพาเชลซีกลับมาตีเสมอได้สำเร็จ สำหรับคริสเตียน โรเมโร่ที่เป็นคนทำฟาวในจังหวัดนี้ก็ถูกไปแดงไม่ออกจากสนามไป จากความได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่นเชลซีสามารถทำประตูได้อีกครั้งใน นาทีที่ 36 แต่ก็กลายเป็นรูปล้ำหน้าของนิโคลัส แจ็คสัน จบครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมเสมอกัน

ครึ่งหลังเชลซีที่ได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่นโหมบุกใส่ทีมท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์ และก็สามารถเรียกฟาวล์ได้อีกครั้งในนาทีที่ 53 ในคราวนี้เป็นเดสทินี อูโดกีที่ไปทำฟาวล์ใส่ราฮีม สเตอร์ลิงซึ่งตัวของเขามีใบเหลืองอยู่แล้วทำให้โดนใบเหลืองที่ 2 จนกลายเป็นใบแดง ทำให้ทีมท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์เหลือผู้เล่นเพียงแค่ 9 คน แต่ว่าสเปอร์สที่เหลือผู้เล่นเพียงแค่ 9 คนบุกใส่ทีมเชลซี ส่วนทางเชลซีก็เป็นฝ่ายตั้งรับและรอสวนกลับในนาทีที่ 73 ราฮีม สเตอร์ลิงหลุดเดี่ยวกระชากบอลจากครึ่งสนามก่อนส่งต่อให้นิโคลัส แจ็คสันทำประตูที่ 2 ให้กับทีมเชลซี สเปอร์ที่ขึงเกมบุกใส่เชลซีทำประตูได้ในนาทีที่ 77 จากการวอลเลย์ของเอริค ดายเออร์ แต่ก็กลายเป็นลูกล้ำหน้า เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 3 เชลซีมาได้ประตูทิ้งห่างอีกครั้งคราวนี้เป็นคอเนอร์ กัลลาเกอร์ที่หลุดเดี่ยวและจ่ายให้นิโคลัส แจ็คสันยิงและปิดท้ายด้วยแฮตทริกของนิโคลัส แจ็คสันในทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 96 จบเกมท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์พ่ายให้กับเชลซีไป 1-4

จากความพ่ายแพ้ในนัดนี้ทำให้สเปอร์ไม่สามารถพลิกกลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกได้หลังจากที่แมนซิตี้เก็บ 3 แต้มได้ในคืนวันเสาร์

ชมไฮไลท์ของการแข่งขันได้ที่ Truevision

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ sportintrends.com

FB : Sport lover

sponsor by nbscasino

Facebook
Twitter