ศึกฟุตบอลถ้วยคาราบาว คัพ เดินทางมาถึงนัดชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อย โดยเป็นการชิงระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่ารายการนี้ 3 สมัยซ้อน กับ ท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์ ที่ต้องการคว้าแชมป์สักรายการ หลังจากร้างถ้วยรางวัลไปนานกว่า 13 ปี สำหรับผังการเล่น เรือใบสีฟ้ามาในระบบ 4-3-3 ส่วนไก่เดือยทอง ก็มาในระบบ 4-3-3 เช่นเดียวกัน
เกมในครึ่งแรกเป็น แมนซิตี้ ที่โหมบุกใส่ข้างเดียว ด้วยการเจาะทางฝั่งซ้ายเป็นหลัก พร้อมกับมีการเล่นชิ่งและเปิดบอลไปหน้าปากประตูเป็นระยะ แต่ก็มิอาจขึ้นนำไปก่อนได้ พร้อมกันนี้ยังมีการเพรสซิ่งสูงใส่ จนทำให้ไก่เดือยทองตั้งเกมไม่ได้ ส่วนทางฟาก สเปอร์ส จากที่เป็นรองอยู่แล้วก็ยิ่งเป็นรองนักขึ้นไปอีก เพราะได้แต่เล่นเกมรับ อีกทั้งเมื่อมีโอกาสได้ขึ้นบอลก็จ่ายบอลเสียบ่อยครั้ง ซึ่งนับว่าโชคดีอย่างยิ่งที่ไม่โดนยิงประตูใน 45 นาทีแรก
เกมในครึ่งหลัง สเปอร์ส ทำได้ดีขึ้น ดังจะเห็นได้จากการออกบอลหลังบ้านสู่หน้าประตูคู่แข่งที่รวดเร็ว ทำให้มีจังหวะได้โจมตีแต่ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะพลพรรคไก่เดือยทองจ่ายบอลกันขาดๆเกินๆหน้าปากประตูเรือใบสีฟ้า จนหมดโอกาสล่อเป้า ขณะที่แมนซิตี้ รูปเกมดูเฉื่อยชาลงไป จนทำให้จังหวะการยิงประตูมีน้อยลงตามไปด้วย แต่ถึงกระนั้นลูกทีมของเป๊ปก็ยังดูเหนือกว่าอยู่ดี
จังหวะที่ แมนซิตี้ ได้ประตูชัย อาจล่าวได้ว่า สเปอร์ส ปล่อยให้ ลาปอร์กต์ ได้กระโดดโหม่งง่ายไปหน่อย แต่ถึงกระนั้นอาจกล่าวโทษไม่ได้ทั้งหมด เพราะปราการหลังชาวฝรั่งเศสก็โขกบอลได้มุมพอดิบพอดี ส่วนหลังจากนั้นเกมแทบจะจบ
เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมากว่า 80 นาที ลูกทีมของเมสัน ไม่อาจสร้างความอันตรายใดๆได้เลย มิหนำซ้ำยังจะโดนบวกสกอร์เพิ่ม แต่ยังดีที่ โยริส ยังไม่พลาดง่ายๆ ก่อนที่สุดท้ายจะเกมด้วยชัยชนะของ แมนซิตี้ พร้อมกับเป็นแชมป์รายการนี้ 4 สมัยซ้อน
บทสรุปจากเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เล่นได้ตามมาตรฐานของตัวเองและไม่มีอะไรผิดพลาด แต่เพราะความไม่เฉียบคม จึงทำให้ประตูชัยมาช้าสักเล็กน้อย ส่วนทางด้าน สเปอร์ส วันนี้แพ้ราบคาบ เพราะสู้เรือใบสีฟ้าไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเกมรับหรือเกมรุก อีกทั้งการแพ้ด้วยสกอร์ 1-0 ก็นับว่ามีบุญช่วยไว้แล้ว
#แมนเชสเตอร์ ซิตี้ #แมนซิตี้ #เรือใบสีฟ้า #ท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์ #ไก่เดือยทอง #คาราบาวคัพ #ข่าวกีฬา #sportintrends.com
