15 วิธีออกกําลังกายที่บ้าน
ในช่วงนี้เราทุกคนจำเป็นต้องอยู่แต่ภายในบ้าน ไม่จำเป็นจริงๆเราไม่ควรที่จะออกไปข้างนอก ดังนั้นการที่เราอยู่แต่ในบ้าน อาจจะทำให้เราไม่ค่อยได้ออกกำลังกายได้มากเหมือนก่อนไปด้วย การทำงานอยู่แต่ที่บ้าน และทานอาหารที่บ้านด้วย อาจจะทำให้เราบางคนเริ่มมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นในบทนี้เราจึงขอนำ 15 วิธีออกกําลังกายที่บ้านมาฝากทุกคนกัน ใครอยากทราบแล้ว เรามาติดตามกันเลย
1.กระโดดเชือก
การออกกำลังกายสุดเบสิกอย่างการกระโดดเชือก ช่วยให้เหงื่อออกได้แล้วก็ยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้ร่างกาย และยังได้ความสนุกสนานอีกด้วย
2.พิลาทิส
พิลาทิส เป็นการออกกำลังกายที่เน้นสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อในร่างกายแบบที่ไม่ต้องออกแรงมาก และท่าออกกำลังกายก็ไม่ยากอย่างที่คิดเพียงแต่ในช่วงเริ่มแรกควรจะไปศึกษาท่าทางที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญก่อนจะดีกว่า เพื่อการออกกำลังกายแบบพิลาทิสจะได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3.ยืดกล้ามเนื้อ
เป็นวิธีการออกกำลังกายที่ทั้งสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อจากการทำงานหนักอีกด้วย ลดอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดจากการใช้งานที่หนักเกินไปได้ อีกทั้งยังไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใด ๆ แค่รู้วิธีการยืดกล้ามเนื้อที่ถูกต้องก็ทำได้แล้ว
4.จ๊อกกิ้งอยู่กับที่
หากไม่สะดวกที่จะออกกำลังกายนอกบ้าน แต่ก็อยากจะจ๊อกกิ้งละก็ ลองใช้วิธีวิ่งอยู่กับที่สิ การออกกำลังกายด้วยการวิ่งอยู่กับที่นอกจากจะช่วยให้ร่างกายได้ตื่นตัวกระฉับกระเฉงแล้ว ก็ยังถือเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่ได้ผลดีทั้งต่อหัวใจอีกด้วย
5.โยคะ
โยคะถือเป็นการออกกำลังกายที่ได้ผลดีทั้งต่อร่างกายและจิตใจ อีกทั้งยังไม่ต้องใช้อุปกรณ์ด้วย แค่มีเพียงเสื่อโยคะก็เพียงพอ ส่วนท่าฝึกโยคะก็มีทั้งแบบท่าง่าย ๆ ไปจนถึงท่าที่ต้องใช้ความชำนาญ
6.หกสูง
อาจจะเป็นท่าที่ต้องใช้ความพยายามสูงเสียหน่อย แต่ก็ให้ผลดีเป็นเลิศ โดยท่านี้สามารถเผาผลาญแคลอรีได้อย่างน้อย 50-80 แคลอรีต่อครั้งเลยล่ะ และยังช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้สามารถไหลเวียนได้ทั่วร่างกายมากขึ้น ซึ่งถ้าอยากจะเริ่มทำท่านี้ ก็เริ่มจากการนั่งหันหน้าเข้ากำแพง และเริ่มถีบขาขึ้นไปบนอากาศ ใช้แขนเท้าพื้นไว้ทั้งสองข้างจนกว่าจะทรงตัวได้ แต่ต้องขอบอกว่าอย่าทำท่านี้นานเกินไปเพราะอาจจะทำให้เลือดคั่งได้
7.เต้นรำ
แค่เปิดเพลงและขยับร่างกายไปตามจังหวะ ก็สามารถช่วยเผาผลาญแคลอรีได้มากเลยทีเดียว หรือถ้าเต้นคนเดียวรู้สึกไม่สนุก ก็สามารถชวนคนอื่นมาร่วมด้วย ก็สนุกไปอีกแบบนะ
8.แพลงกิ้ง
เป็นหนึ่งในการออกกำลังกายที่ใช้เวลาไม่นานแต่สามารถช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดี แค่เพียงอยู่ในท่าเริ่มวิดพื้นค้างเอาไว้ เริ่มต้นที่วันละ 30 วินาที และเพิ่มทีละ 10 วินาทีไปเรื่อย ๆ ก็จะช่วยให้แขนที่รับน้ำหนักตัวของเรามีความแข็งแรงขึ้น
9.กระโดดตบ
การกระโดดตบก็ถือเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่ได้ประสิทธิภาพสูงเช่นกัน อีกอย่างยังสามารถทำตอนไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นตอนดูทีวี หรือกำลังรอเครื่องซักผ้าทำงาน ก็ได้ทั้งนั้นเลย
10.วิดพื้น
เป็นท่าออกกำลังกายพื้นฐานที่ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย รวมทั้งเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าอก หน้าท้อง แขนและต้นขาให้แข็งแรง
11.เวตเทรนนิ่ง
วิธีสร้างกล้ามเนื้ออีกวิธีหนึ่งที่คุณสามารถทำได้เองที่บ้านก็คือการเล่นเวตเทรนนิ่ง อุปกรณ์นั้นก็หาไม่ยาก ไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อดัมเบลมาเป็นชุดให้เสียตังค์ แค่หาขวดน้ำขนาดประมาณ 1.5 ลิตร ใส่น้ำให้เต็มแล้วยกขึ้น-ลงทุกวัน หากอยากให้หนักกว่านี้ก็เปลี่ยนขนาดขวด
12.การขึ้น-ลงบันได
การขึ้น-ลงบันไดก็ถือเป็นการออกกำลังกายแล้ว แถมยังเป็นการออกกำลังกายคาร์ดิโอที่ดีเสียด้วย แต่ถ้าคิดว่าไม่มีโอกาสจะได้ขึ้น-ลงบันไดบ่อย ๆ ที่บ้าน ก็ลองเปลี่ยนมาเป็นการใช้บันไดแทนลิฟต์ในที่ทำงานก็ได้
13.ทำความสะอาดบ้าน
กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า หรือล้างห้องน้ำ ล้วนแต่เป็นกิจกรรมงานบ้านที่เราทำกันอยู่เป็นประจำ การทำงานบ้านก็เป็นการออกกำลังกายได้เหมือนกัน นอกจากจะได้บ้านที่สะอาดและเป็นระเบียบแล้ว ยังพ่วงมาด้วยร่างกายฟิต แอนด์ เฟิร์ม ที่คุณอาจไม่รู้ตัวอีกด้วยนะ
14.ออกกำลังกายตามคลิปวิดีโอในยูทูบ
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้าถึงได้ง่ายแทบจะทุกครัวเรือน อยากรู้วิธีการออกกำลังกายอะไรก็แค่เพียงเปิดดูจากในยูทูบ หรือจะออกกำลังกายตามกันไปเลยก็ได้
15.ออกกำลังกายด้วยอุปกรณ์
บ้านไหนพอจะมีทุนทรัพย์ การหาซื้อเครื่องออกกำลังกายหรืออุปกรณ์ในการออกกำลังกายบางอย่างมาไว้ที่บ้าน อาจจะต้องลงทุนมากสักหน่อยในครั้งแรก แต่ก็จะได้อุปกรณ์ที่เป็นของเราเองและอยู่กับเราไปนาน
นี่ก็คือ 15 วิธีออกกําลังกายที่บ้าน ที่นำมาฝากกัน ลองนำไปเป็นทางเลือกในการออกกำลังกายที่บ้านกัน แล้วในบทหน้าเรามาพบกันใหม่กับเคล็ดลับเรื่องสุขภาพที่จะไปสรรหามาฝากกันอีกได้ในทุกสัปดาห์ จะเป็นเคล็ดลับสุขภาพเรื่องอะไรกันบ้าง ต้องมาติดตามกันต่อ
ติดตามบทความ ออกกำลังกาย ในทุกสัปดาห์ได้ที่ sportintrends.com
FB : Sport lover