โด้ซัด 2 พาแมนยูขึ้นจ่าฝูง

โด้

โด้ซัด 2 ในเกมการแข่งขันทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเจอกับทีมนิวคาสเซิล

การแข่งขันพรีเมียร์ลีกอังกฤษได้เดินทางมาถึงนัดที่ 4 ของการแข่งขันแล้วและสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือการลงเล่นของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ที่กลับมาเล่นให้กับทีมแมนยูอีกครั้งนับตั้งแต่เขาจากไปเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ในการแข่งขันนัดดังกล่าวถูกจับตามองจากแฟนบอลทั่วทุกมุมโลกอย่างแน่นอนที่สำคัญเลยก็คือเป็นการแข่งขันในรังเหย้าของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่างสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด และมีคนสำคัญเข้ามาติดตามชมในเกมดังกล่าว ตัวอย่างเช่นเซอร์อเล็กซ์เฟอร์กูสันอดีตผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งเขาเป็นอดีตกุนซือที่คุมทีมอยู่ในสมัยที่โรนัลโด้เล่นให้กับทีมแมนยูครั้งแรก

ในเกมการแข่งขันนัดดังกล่าวนั้นทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเจอกับทีมนิวคาสเซิล ซึ่งชื่อชั้นของทีมแมนยูมีประสิทธิภาพทีมที่ดีกว่าแต่ว่าในเกมการแข่งขันนัดดังกล่าวนั้นทีมนิวคาสเซิลกับทำได้ดีเป็นอย่างมากในช่วงครึ่งแรกยืมเสมอทีมแมนยูมาได้จนถึงเกือบหมดเวลาครึ่งแรก ในช่วงท้ายของการแข่งขันครึ่งแรกนั้นทีมนิวคาสเซิลเสียประตูให้กับทีมแมนยูโดยลูกยิงของคริสเตียโน่ โรนัลโด้เรียกได้ว่าเปิดตัวนัดแรกก็ทำประตูได้เลย และการแข่งขันในครึ่งแรกก็จบลงด้วยสกอร์ 1 ประตูต่อ 0

เปิดมาในครึ่งหลังทีมนิวคาสเซิลนั้นสามารถตีเสมอได้จากลูกยิงของคาเบียร์ มานกีโยและที่สำคัญนิวคาสเซิลมีโอกาสขึ้นนำด้วยแต่ว่าทีมแมนยูนั้นก็ยังเหนือกว่าในนาทีที่ 62 โรนัลโด้ก็ทำประตูที่ 2 ให้กับตนเองและให้กับทีมแมนยู ทำให้ทีมแมนยูในขึ้นนำนิวคาสเซิลไปเป็น 2 ประตูต่อ 1 และทำให้โรนัลโด้มีโอกาสที่จะทำแฮตทริกในเกมเปิดตัวของเขากับทีมแมนยู

หลังจากที่ประตูที่ 2 ของทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้เกิดขึ้นทีมแมนยูก็เป็นฝ่ายครองเกมไว้ทั้งหมดและทำประตูเพิ่มได้อีกถึง 2 ประตูจากการยิงของบรูโน่ เฟอร์นานเดส และ เจสซี ลินการ์ด ทำให้ผลของการแข่งขันจบลงด้วยสกอร์ 4 ประตูต่อ 1 และส่งผลให้ทีมแมนยูนั้นขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงเพราะว่าไก่เดือยทองท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์นั้นดันไปพ่ายให้กับคริสตัลพาเลซ 3 ประตูต่อ 0 นั่นเอง และที่สำคัญโรนัลโด้คว้าแมนออฟเดอะแมตช์ไปด้วย

ถึงแม้ว่าคริสเตียโน่ โรนัลโด้จะไม่สามารถทำแฮตทริกได้ในเกมการแข่งขันนัดดังกล่าวแต่เขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่าในวัย 36 ปีเขายังเป็นผู้เล่นที่อยู่ในแนวหน้าของวงการลูกหนังและพร้อมที่จะทำประตูให้กับทีมเสมอ เรียกได้ว่าการแข่งขันพรีเมียร์ลีกอังกฤษในฤดูกาลนี้นั้นดุเดือดเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นแมนยูหรือเชลซี ลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ซิตี้ก็ต่างพากันเดินหน้าคว้า 3 แต้มกันทุกทีม ปีนี้ดีไม่ดีได้รู้ถึงช่วงท้ายฤดูกาลแน่นอน

ภาพจาก Wallpaperaccess

ติดตามบทความเรื่อง ข่าวกีฬา ออกกำลังกาย และอุปกรณ์กีฬาได้ที่ ข่าวกีฬา
เวปไซด์ sportintrends.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Facebook
Twitter