จิ้งจอกสยามได้เฮก่อนใครก่อนเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 2021-2022 ด้วยการคว้าชัยเหนือทีม แมนเชสเตอร์ซิตี้ ที่กล่าวกันว่าดีที่สุดในเกาะอังกฤษในห้วงเวลานี้ ในการพบกันในศึกคอมมูนิตี้ชิลด์ (แชร์ริตี้ชิลด์เดิม)
ในค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมาที่สนามเวมบลีย์ได้ระเบิดสังเวียนแข้งคอมมูนิตี้ชิลด์ที่เป็นการฟาดแข้งระหว่างแชมป์พรีเมียลีกอย่างเรือใบสีฟ้า กับแชมป์บอลถ้วยเอฟเอคัฟจิ้งจอกสยาม ที่นับเป็นศึกก่อนเปิดฤดูกาลที่มีศักดิ์ศรีแชมป์เป็นเดิมพัน
เลสเตอร์ซิตี้ ลงเล่นด้วยระบบ 4-2-3-1 โดยจัดชุดที่ดีที่สุดลงปะทะแข้ง เจมี่ วาร์ดี้ หัวหอกวัย34ปี เป็นหัวใจของทีมกองหน้า โดยมี เจมส์ เมดิสัน กับฮาวี่ บาส์นเป็นคนคอยทำเกมส์ให้ โดยมีตีเลอมันส์กับเอ็นดีดี้ เป็นทั้งคนเชื่อมเกมและตัดเกม โดยมีกัปตันทีมแคสเปอร์ ชไมเคิลเฝ้าเสา
ฝ่ายเรือใบสีฟ้ามี เฟอร์รัน ทอเรสศูนย์หน้าทีมชาติสเปนยืนเป็นหน้าเป้าในระบบ 4-3-3 โดยมีซามูเอล เอโดซี กับ ริยาร์ด มาเรซ สนับสนุนจากริมเส้น กลางมีเฟอร์นันดินโญ่คุมเกม รูเบน ดีอัสกับเนธาน อาเก้ยืนเป็นปราการหลัง โดยมีแมนดี้กับคันเซโลยืนแบ็คซ้ายขวา และส่งนายทวารสำรองแซค สเตฟเฟนยืนเฝ้าเสา ส่วนแจ็ค กรีลิชที่เพิ่งซื้อมาด้วยค่าตัว100ล้านปอนด์นั่งเป็นสำรอง ซึ่งโดยรวมแล้วแมนซิตี้ขนขุมกำลังหลักเกือบทั้งหมดลงบู๊กับเลสเตอร์ เรียกได้ว่าถ้วยนี้มีความหมายกับทั้งสองทีม เลสเตอร์นั้นต้องการเกียรติยศหลังจากไม่ได้สัมผัสถ้วยนี้มา50ปี ในขณะที่แมนซิตี้มีศักดิ์ศรีค้ำคออยู่ในฐานะทีมที่ดีที่สุดในเกาะอังกฤษและต้องการสร้างขวัญกำลังใจก่อนเปิดฤดูกาล
เกมเริ่มต้นด้วยความเข้มข้นเร้าใจตั้งแต่นาทีแรกทั้งสองฝ่ายเปิดเกมรุกใส่กันเอาใจแฟนบอลของตัวเอง แต่ว่าจังหวะบอลมันไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเท่าที่ควร แล้วก็กลายเป็นเลสเตอร์ที่มีโอกาสก่อนจากฮาวี่ บาร์นที่ซัดไปติดบล็อคกองหลัง หลังจากนั้นแมนซิตี้ก็มีโอกาสต่อเนื่องจากเอโดซี่ กุนโดกัน และมาเรซ แต่ก็โดนขัดขวางได้หมด โดยเฉพาะกุนโดกันที่ปั่นฟรีคิกโค้งเกือบจะเป็นประตูอยู่แล้วแต่โดนชไมเคิลลอยตัวขึ้นไปปัดข้ามคานหวุดหวิด
แต่พอเข้านาที่ที่16เป็นต้นมา เลสเตอร์ก็เริ่มตั้งหลักได้ มีโอกาสจากเปเรซ ตีเลอมันส์ และเจมี่ วาร์ดี้ โดยวาร์ดี้ได้โอกาสยิงในกรอบเขตโทษสองครั้ง หนึ่งในสองครั้งเป็นการยิงผ่านมือผู้รักษาประตูไปแล้วแต่ไปโดนเสากระเด้งออกมาทำให้พลาดประตูไปอย่างน่าเสียดายที่สุด จบครึ่งแรกไปอย่างดุเดือด
พอเข้าครึ่งเวลาหลังทั้งสองทีมก็ยังใส่กันไม่ยั้งเหมือนเดิม ผลัดกันทำโอกาสในการยิงประตูแต่ยังไม่มีใครทำได้จะแจ้งเท่ากับวาร์ดี้และกุนโดกันอีก
และในราวๆนาทีที่ 70 เป็นต้นไป ทั้งสองฝ่ายก็เปลี่ยนผู้เล่นลงมาหลายตำแหน่ง โดยฝั่งเลสเตอร์มี เอียนนาโช ลงมายืนเป้าแทนวาร์ดี้ ในขณะที่ แจ็ค กรีลิช ถูกเปลี่ยนลงมาเล่นครั้งแรกในสีเสื้อของเรือใบแทนที่เอโดซี่ ซึ่งสามารถลากเลื้อยได้พอสมควรแม้ว่าจะยังไม่เข้าขากับทีมมากนัก แต่พอนาทีที่ 87 โรดี้ที่ลงมาแทนกุนโดกันส่งบอลกลับหลังมาให้อาเก้โดยที่มีเอียนนาโช่วิ่งไล่ตามมาแย่งบอลไปจากเท้าอาเก้ได้ทำให้อาเก้ต้องตัดสินใจทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ เอียนนาโช่ลุกขึ้นมาสังหารประตูเองไปแบบเต็มข้อทะลุสองมือของสเตฟเฟนไปแบบน่าเจ็บใจ
จบเกมเลสเตอร์คว้าชัยไป 1-0 แบบสมศักดิ์ศรีท่ามกลางความดีใจของกองเชียร์ที่ต่างพากันฉลองแชมป์ถ้วยที่สามในรอบสี่ปี และเป็นอีกถ้วยที่รอคอยมาถึง50ปี
ติดตามบทความเรื่อง ข่าวกีฬา ออกกำลังกาย และอุปกรณ์กีฬาได้ที่ ข่าวกีฬา
เวปไซด์ sportintrends.com
