“จบเจ๊าแบบสะเทือนหัวตาราง” เชลซี เกือบดวงแตก ไล่เจ๊า แมนยู 1-1 จากลูกโทษ
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 13 ของฤดูกาล คู่ส่งท้ายของสัปดาห์ในวันอาทิตย์ เป็นเกมบิ๊กแมตช์ ระหว่าง เชลซี ที่รั้งจ่าฝูง กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การทำทีมของ คาริค สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-4-2-1 ตามถนัด ขณะที่ทีมเยือนปรับมายืน 4-4-2 แบบไดม่อน หรือจะมองว่าเป็น 4-3-3 ก็ได้
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น แนวรับแมนยู มีอาการแกว่งและก่อความผิดพลาดง่ายๆให้เจ้าถิ่นใส่สกอร์แบบต่อเนื่อง แต่โชคดีที่ไม่เสียประตู นอกจากนี้เมื่อคู่แข่งเซตบอล ก็จะพยายามเพรสซิ่งสูง แต่การดันแค่บางส่วน ในขณะที่แนวรับยังยืนคุมหน้าบ้านตัวเอง มันก็มีผลให้เจ้าบ้านแกะเพรสซิ่งง่าย พร้อมกับการบุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว กระนั้นยังดีที่ เดเกอา ช่วยเซฟไว้หลายครั้ง ส่วนเกมบุกของปีศาจแดง ไม่มีปรากฏให้เห็นเลย เพราะเมื่อไรที่จะออกบอล ก็จะถูกเข้ามารุมเพรสจนเสียบอล ตรงข้ามกัน เชลซี ได้เล่นในเกมที่ตัวเองถนัด แล้วสามารถจบสกอร์ได้ตลอด แต่ความละเอียดและทีเด็ดทีขาด ทำให้ไม่ได้ประตูนำ
ครึ่งหลัง แมนยู ยังคงต้องตั้งรับตามเดิม แต่สิ่งที่ต่างออกไป คือ การเล่นบอลโต้กลับ ที่จะใช้บอลสาดยาวไปหน้า เพื่อหลีกหนีการเข้ารุมเพรสซิ่ง แล้วมันก็ได้ผลถึงขั้นยิงประตูขึ้นนำ 0-1 จากความผิดพลาดของ จอร์จินโญ่ ที่เลือกจะจับบอลลงแล้วไกลตัว ทำให้ ซานโช่ ลากไปยิง ซึ่งหลังจากนั้น ผู้เล่นปีศาจแดงก็มีความมั่นใจในการสกัดบอลมากขึ้น ส่วนทางฝั่ง เชลซี มีเสียศูนย์ไปชั่วครู่ แต่การกลับมาโหมบุก จังหวะยังขาดๆเกินๆ หรือเมื่อมีโอกาสจบ ก็ยิงไม่ละเอียด ขณะที่เกมรับ ทั้งเกมแทบไม่ต้องทำอะไร แต่ก็ก่อความผิดพลาดจนเกือบเสียเพิ่ม ยังดีที่คู่แข่งมาพลาดและจนได้จุดโทษ แล้วยิงตีเสมอ 1-1 ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เชลซี ถือว่าเสียหายที่ได้แค่เสมอ แต่ถ้าจะมองว่าไม่แพ้ก็บุญแล้ว ก็ได้เหมือนกัน เพราะเกือบตลอดเกม สามารถบุกและครองบอลได้มากกว่า แต่การยิงอย่างบรรจง คือ สิ่งที่ขาดหาย รวมถึงแนวรับที่ผิดพลาดง่ายๆเกินไป ส่วนทางฝั่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมรับแกว่งและพร้อมจะเสียประตู แต่พอผ่าน 15 นาทีแรกไปได้ ก็ค่อยๆผ่อนคลายและดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะหลังขึ้นนำ กระนั้นการยืนป้องกันที่มีมิวินัย มันก็ดันมีภาพของการก่อความผิดพลาดง่ายๆให้เห็น ซึ่งตรงจุดนี้ยังต้องปรับแก้กันต่อไป ขณะที่เกมรุก ต่อกรแทบจะไม่ได้เลย แต่การแก้เกมและฉวยโอกาสด้วยการวิ่งจี้คนมีบอล มันก็มีผลให้พวกเขาได้ประตู อีกทั้งมันมีโอกาสที่จะยิงแซงเสียด้วย ซึ่งมันน่าเสียดายที่ เฟร็ด ตัดสินใจได้ไม่ดีพอ
ติดตามบทความ ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ sportintrends.com
FB : Sport lover
