วิเคราะห์เกม UCL นัดชิงชนะเลิศ เชลซี เฉือน แมนซิตี้ 1-0 คว้าแชมป์สมัยที่ 2

UCL นัดชิงชนะเลิศ

ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2020/21 รอบชิงชนะเลิศ ณ สนามเหย้าของ เอฟซี ปอร์โต้ ประเทศโปรตุเกส โดยคู่ชิงปีนี้เป็นทีมจากอังกฤษโคจรมาพบกันเอง ระหว่าง เชลซี ทีมอันดับที่ 4 ของตาราง กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นแชมป์ลีกมาสดๆร้อนๆ สำหรับผังการเล่น สิงห์บูล มาในระบบที่ไม่ค่อยเห็นได้บ่อยๆ คือ 5-4-1 ส่วน เรือใบสีฟ้า วางผัง 4-4-2 แบบไดมอนด์ โดยเอากลางรับออก แล้วใส่หน้ามาเต็มอัตราศึก

แมนซิตี้ มาครองบอลและบุกใส่ตามเชิง แต่ก็ต้องเจอกับความยากลำบาก เพราะ ทูเคิ่ล เตรียมแผนและวางผังหลัง 5 มาเล่นรับแบบเต็มสูบ ทำให้การเจาะหน้ากรอบเขตโทษไม่สามารถทำได้เลย จะมีเพียงการเจาะริมเส้นเท่านั้น ที่สามารถเจาะได้

แต่มันก็ไม่ใกล้กับการได้ประตู เพราะมันได้แต่เฉียดไปเฉียดมา ส่วน เชลซี ที่แม้ว่าจะรับเต็มสูบ แต่เมื่อดักบอลได้จะไม่เตะทิ้งเตะขว้าง โดยพลพรรคสิงห์บูล จะใช้วิธีการการถ่ายบอลและชิ่งเพื่อทำเกมสวนกลับ ซึ่งถือว่าทำได้ดี เพราะมีจังหวะโต้ขึ้นมาอยู่ตลอด พลางเป็นสัญญาณไปถึง เป๊ป ว่าการมีกลางรับเพียงคนนั้นเอาไม่อยู่ สุดท้ายก่อนจบครึ่งแรกก็มาโดน เชลซี ขึ้นนำ 1-0 จากลูกโต้กลับที่แทงบอลยาวไปข้างหน้า

ครึ่งหลัง แมนซิตี้ พยายามจะโหมบุกให้มากกว่าเดิม แต่ภาพรวมที่ออกมา คือ ไม่มีโอกาสที่ใกล้เคียงแม้แต่น้อย ทำให้เป๊ป ต้องแก้เกมด้วยการส่ง เชซุส และ อเกวโร่ ลงมา ซึ่งก็ทำให้เกมรุกดูวูบวาบ แต่ก็เพียงเล็กน้อย

ขณะที่ฝั่งของ เชลซี ยังเน้นรับเหนียวแน่นและสวนกลับ โดยมีหลายจังหวะที่เกือบบวกประตูเพิ่มได้ จากนั้นช่วงท้ายเกมไม่มีฝั่งไหนเพิ่มประตูได้ ทำให้ เชลซี เฉือนชนะไป 1-0 คว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 2 ต่อจากฤดูกาล 2011/12

บทสรุปจากเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จัดตัวผิดพลาด เพราะเลือกที่จะถอนตัวรับไปใส่ตัวบุกแทน ซึ่งภาพที่ปรากฏ คือ บุกกดดันคู่แข่งไม่ต่อเนื่อง เพราะแนวรับแย่งบอลคืนจากในแดนคู่แข่งหรือกลางสนามไม่ได้ จนสุดท้ายปัญหาเหล่านี้นำมาสู่การเสียประตู แล้วตีเสมอไม่ได้ ขณะที่ฝั่ง เชลซี แม้จะเป็นรองตามชื่อชั้น แต่เมื่อลงไปเล่นจริงกลับดูเหนือกว่า เพราะรับได้เหนียวแน่นและโต้กลับได้ดีตามแผนทุกอย่าง

#เชลซี #สิงห์บูล #แมนเชสเตอร์ ซิตี้ #แมนซิตี้ #เรือใบสีฟ้า #ข่าวกีฬา #sportintrends.com

Facebook
Twitter