ศึก FA Cup รอบ 8 ทีม คู่สุดท้าย ที่สนามคิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม เลสเตอร์ ซิตี้ ในฐานะเจ้าบ้าน พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พึ่งกลับมาจากการเล่น ยูโรปาลีก ที่อิตาลี ทำให้เป็นรองในเรื่องสภาพร่างกายพอสมควร สำหรับผังการเล่น เจ้าบ้านมาในระบบ 4-4-2 ส่วนทีมเยือนวางผัง 4-2-3-1 มาต่อกร
เกมในครึ่งแรกช่วงต้น เลสเตอร์ ดูเหนือกว่าเล็กน้อยในแง่การครองบอล แต่มิอาจพอบอลเข้าไปในแดนของ แมนยู ได้เลย เพราะถูกทีมเยือนเพรสซิ่งและไล่บอลตั้งแต่ในแดนของเจ้าบ้าน ทำให้เป็นเกมที่อึกอัดพอสมควร
กระทั่งความผิดพลาดของ แม็คไกวร์ ที่จ่ายบอลยัดไปที่เท้าของเฟร็ด ทั้งที่มีผู้เล่นของ เลสเตอร์ เข้ามารุม 2 คน จนทำให้กลางรับชาวบราซิลต้องรีบบอลคืนหลังแล้วเกิดความผิดพลาด จนถูก อิเฮียนาโช่ ที่วิ่งทะยานไปข้างหน้ายิงเข้าประตู แต่อย่างไรก็ดี แมนยู ยังพอมีโชคอยู่บ้างจากลูกตีเสมอที่ทุกลงล็อคพอดี เพราะรูปเกมในครึ่งแรกไม่สามารถบุกได้เป็นชิ้นเป็นอัน อีกทั้งยังเสียบอลบริเวณกลางสนามบ่อยครั้งจากการถูกรุมบีบ
ครึ่งหลัง เลสเตอร์ แก้เกมด้วยการถ่ายบอลและทำชิ่งให้เร็วขึ้น จนมาได้ประตูจากขึ้นนำ 2-1 ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากความผิดพลาดของกลางรับ แมนยู ที่ตามบอลแต่ไม่ตามคน แถมยังเปิดพื้นที่ให้ ตีเลอมันส์ ได้ลากหน้ากรอบเขตโทษ ทำให้หลังจากนั้น โซลชา พยายามแก้เกมด้วยการส่งผู้เล่นตัวหลัก 4 ตัวรวด ลงสนามในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย
ซึ่งตัวทีเด็ดอยู่ตรงที่ บรูโน่ กับ คาวานี่ เพราะตลอด 60 นาทีที่ผ่านมา ฟาน เดอ เบ็ค ไม่สามารถนำจ่ายบอลไปถึงแดนหน้าได้เลย จนจะเห็นได้ว่า มาร์กซิยาล กับ กรีนวู้ด แทบไม่ได้บอล
การส่งตัวหลักลงมาพร้อมกัน 4 ตัว ไม่ได้ช่วยให้ แมนยู มีรูปเกมที่ดีขึ้นแต่อย่างใด เพราะยามที่บรูโน่ ได้บอล ก็จะถูกประกบตายและตัดฟาว์ล จนท้ายที่สุดมาโดนประตูตอกฝาโลงจากลูกฟรีคลิกเป็น 3-1 ซึ่งนับว่า แม็คโทมิเนย์ มีความผิดพลาด เพราะยืนปักหลักโดยไม่เข้าประกบตัวอันตรายของ เลสเตอร์
บทสรุปจากเกม เลสเตอร์ ซิตี้ สมควรเป็นผู้ชนะเพราะมีความมุ่งมั่นมากกว่า ดังจะเห็นได้จากการเพรสซิ่ง การรุมบีบ และการพาบอลไปข้างหน้าที่มีความอันตราย ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ความอ่อนล้าจากการแข่งขัน ความผิดพลาดในเกม และที่สำคัญคือตัวสำรองที่ไม่สามารถทดแทนตัวจริงได้ ได้กลายเป็นมูลเหตุที่ทำให้พวกเขาพ่ายแพ้ชนิดสู้ไม่ได้ ทำให้นับจากนี้จะเหลือลุ้นแชมป์เพียงถ้วย ยูโรปาลีก เท่านั้น
Tag #เลสเตอร์ ซิตี้ #จิ้งจอกสยาม #แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด #แมนยู #ปีศาจแดง #ข่าวกีฬา #sportintrends.com
