“ทีมแรกที่โค่นแชมป์เก่า”

ลิเวอร์พูล ทีมแรกที่โค่นแชมป์เก่า ซาลาห์ ยิงประตูโทน โค่น แมนซิตี้

ซาลาห์ ยิงประตูโทน โค่น แมนซิตี้ ในรัง 1-0

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 11 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ เกมอภิมหาดาร์บี้แมตช์ยกแรกที่สนามแอนฟิลด์ เป็นการพบกับของ หงษ์แดง ลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มยังลุ่มๆดอนๆในฤดูกาลนี้ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยิงแหลกจนขับเคี่ยวตำแหน่งผู้นำอยู่ในเวลานี้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3 พร้อมกับตัวผู้เล่นที่ต้องจัดแบบตามมีตามเกิด ดังจะเห็นได้จากการดัน เจมส์ มิลเนอร์ ลงไปเล่นแบ็คขวา เพราะ โจ โกเมช ต้องไปเล่นกองหลัง ส่วนทีมเยือนในระบบ 4-3-3 จัดตัวเต็มอัตราศึก โดยมี ฮาแลนด์ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า

      แผนการเล่นของ ลิเวอร์พูล ไม่เพรสซิ่งสูง แต่จะเน้นการเพรสซิ่งกลางสนามและในแดน 1-2 ของคู่แข่งและของตัวเอง ซึ่งมันก็เป็นไปเพื่อการป้องกันไม่ให้ทีมเยือนได้วางบอลเพื่อวิ่งหลุดกับดักล้ำหน้า แล้วมันก็ได้ผลดีราวครึ่งชั่วโมง อีกทั้งการเล่นเกมเกมรุกก็ดูจะมีโอกาสมากกว่า แต่ประสิทธิภาพและความใกล้เคียง ยังห่างไกลที่จะได้ประตู กระทั่งเกมเข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก แมนซิตี้ เริ่มจะขึ้นบอลจากแดนหลังเข้าไปแดนของเจ้าบ้านได้อย่างไหลลื่น อีกทั้งยังมีโอกาสแบบเหน่งๆ แต่น่าเสียดายที่ยิงไม่เข้าเอง โดยเฉพาะการโหม่งของ ฮาแลนด์ ที่ต้องฝังและใส่สกอร์

ครึ่งหลัง แมนซิตี้ เลือกที่จะออกมาเล่นด้วยการโหมใส่เจ้าบ้าน เพราะเห็นถึงแผลในเกมรับ แต่ในทางกลับกันมันก็ได้กลายเป็นโอกาสให้ หงส์แดงลิเวอร์พูล ได้สวนกลับอยู่เรื่อยๆ ซึ่งมันมีโอกาสควรได้หลายหน กระทั่งมาสำเร็จในนาทีที่ 74 จากการเตะบอลยาวของ อลิสซง มาให้ ซาลาห์ ได้เบียดกับ แบร์นาโด้ ก่อนจะสลัดหลุดและเข้าไปยิงผ่าน เอเดซอน เข้าไป จากนั้นหงส์แดงเจ้าถิ่นยังมีโอกาส แต่ดันปล่อยทิ้งให้หลุดลอยไป ขณะที่เรือใบสีฟ้า ความอันตรายในเกมรุกที่เคยทำได้ ดูจะมลายหายไปจนถึงจบเกม  

      บทสรุปจากเกม ลิเวอร์พูล เล่นได้ดีที่สุดตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา โดยปัจจัยแรกที่ทำให้วันนี้สามารถคว้า 3 แต้มได้ คือ การเพรสซิ่งในพื้นที่กลางสนาม ซึ่งเป็นการแก้เผ็ดคู่แข่งที่ตรงจุด แม้จะมีช่วงเวลาที่เอาไม่อยู่ ส่วนเกมรุกมีโอกาสสวนกลับค่อนข้างมาก โดยหากเฉียบคมกว่านี้ สกอร์สามารถไหลไปถึง 3-4 ลูกได้ ส่วนทางฝั่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กว่าจะเล่นเกมของตัวเองได้ เวลาก็ล่วงเลยไปกว่า 30 นาที กระนั้นการโหมคู่แข่งและดันสูง มันกได้กลายเป็นการเปิดช่องโห่วให้คู่แข่งน็อคเสียอย่างนั้น แล้วจากนั้นกลายเป็นเรือใบสีฟ้าที่เร่งไม่ขึ้นและพ่ายแพ้ไป

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ sportintrends.com

FB : Sport lover

Facebook
Twitter