ลิเวอร์พูล สำรองครึ่งทีม รัวแซง นอริช 3-1

ลิเวอร์พูล

“โดนก่อน แต่รัวคืน” ลิเวอร์พูล สำรองครึ่งทีม รัวแซง นอริช 3-1 ยึดรองจ่าฝูงเหนียวแน่น

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 26 ของฤดูกาล ณ สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล ที่กำลังต้องการแต้มเพื่อลดระยะห่างจากจ่าฝูง ต้องพบกับ นอริช ซิตี้ ที่การหนีตายต้องดิ้นรนตลอดเวลา เพราะทีมที่อยู่ในข่ายเดียวกันก็เบียดเสียดตลอด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างมาในระบบ 4-3-3 แบบพร้อมเพรียงกัน

การแข่งขันเริ่มต้น ลิเวอร์พูล เหนือกว่าตามเชิง แต่ในแง่ของการส่งตัวสำรองลงมาผสม มันด้อยศักยภาพของทีมให้ต่ำลง ไล่ตั้งแต่ แบ็คขวาที่ไม่สามารถเติมเกมรุกได้ กองกลางที่จ่ายบอลเสีย ทำเกมรุกไม่ได้ และเกมรุกของ 3 ประสาน ที่การยืนตำแหน่งดูไม่ลงตัว กระนั้นพวกเขาก็สร้างโอกาสได้อยู่เรื่อยๆ แต่ดันทำไม่ได้เสียเอง ส่วน นอริช มาตั้งเกมรับ แต่ก็ไม่ได้เหนียวแน่นอะไร กลับกันเมื่อโต้กลับ การต่อบอลดีและมีโอกาสได้จบ แต่ก็ไม่คมเช่นกัน  

ครึ่งหลังเริ่มไปได้ไม่กี่นาที นอริช มาได้ประตูนำ 0-1 ซึ่งในจังหวะนั้นแนวรับเจ้าถิ่นยืนป้องกันได้แล้ว แต่การยิงมาแฉลบทำให้เปลี่ยนทางเข้าประตู ส่วนทางฝั่ง ลิเวอร์พูล พวกเขาจัดการแก้เกมด้วยการเปลี่ยนกองกลางและใส่กองหน้าลงมาเพิ่ม อีกทั้งยังมีการปรับตำแหน่งในแดนหน้า ทำให้ใช้เวลาเวลาไม่นานก็สามารถตีเสมอ 1-1 กระนั้นในจังหวะนี้ แนวรับทีมเยือนดันพลาดที่ประกบห่างเกินไป ถัดมาเพียงนาทีเดียว ซาลาห์ยิงแซงเป็น 2-1 ซึ่งก็ต้องชม อลิสซง ที่เปิดไกลได้ดี ส่วนบังโม เมื่อเห็นว่าคู่แข่งกำลังจะไปดักทางขวาของตน จึงจัดการใช้เท้าขวาที่ไม่ถนัดยิงไปอีกทาง จนหลังหักหมดทั้งแผง จากนั้นหงส์แดงก็สามารถครองเกมไว้ได้แบบเบ็ดเสร็จอย่างต่อเนื่อง แล้วมาได้ลูก 3-1 จากการแทงตรงๆให้ ดิอาซ ที่วิ่งมาตัวเปล่า พร้อมกับลากเข้าไปยิง ซึ่งในจังหวะนี้ แนวรับนกขมิ้นเหลืองอ่อนยืนห่างอีกครั้ง  

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ลิเวอร์พูล มีศักยภาพที่ด้อยลงจากการส่งตัวสำรองก็จริง แต่เพราะพวกเขายิงประตูไม่ได้ แล้วมาเสียประตูอีก ทำให้การแก้เกมและเปลี่ยนตัวต้องเกิดขึ้น ซึ่งมันก็ได้ผลและปิดจ็อบได้สำเร็จ ขณะที่ นอริช ซิตี้ เกมรับไม่ได้ดีและมีช่องโห่วให้เห็น ซึ่งประตูที่ 1 และ 3 ที่เสียไป ต้องโทษแนวรับที่เปิดพื้นที่ให้คู่แข่ง ส่วนเกมรุก การต่อบอลและขึ้นเกมทำได้ดีแล้ว แต่ความเฉียบคมยังไม่ค่อยมี ซึ่งมันจะลำบากอย่างยิ่งสำหรับการหนีตาย

ติดตามบทความ ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ sportintrends.com

FB : Sport lover

Facebook
Twitter