ยูโรเปี้ยนส์ ซุปเปอร์ลีก ระเบิดนิวเคลียร์ของโลกลูกหนังที่พร้อมแกะสลัก หากจำเป็นต้องใช้

ยูโรเปี้ยนส์ ซุปเปอร์ลีก

ณ ขณะนี้ กระแสของโลกลูกหนังจะถล่มใส่กลุ่มภาคี ยูโรเปี้ยนส์ ซุปเปอร์ลีก แบบจัดหนักจัดเต็มตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ท้ายที่สุดภาคีเกือบทั้งหมดทนกระแสสังคมไม่ไหว จึงได้ทยอยกันถอนตัวในช่วงวันอังคาร พร้อมกับกล่าวกับคำโทษ แต่ถึงกระนั้นเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่จุดจบแบบบริบูรณ์ของ  ยูโรเปี้ยนส์ ซุปเปอร์ลีก หากแต่เป็นการลดกระแสสังคม พร้อมกับพับแผนนี้เอาไว้ใต้โต๊ะ เพื่อหยิบเอามากางใหม่อีกครั้ง หากการปันผลประโยชน์ในเรื่องเงินๆทองๆจาก ยูฟ่า ไม่ยุติธรรมสำหรับพวกเขา

หากใครได้อ่านบทความและข่าวจากหลายๆสื่อ ก็จะพบว่าแนวคิดของการจัดตั้ง ยูโรเปี้ยนส์ ซุปเปอร์ลีก มีมานานมากโขแล้ว แต่มันได้ผ่านการเรียนรู้และลองผิดลองถูกมานาน ด้วยพื้นฐานทางแนวคิดที่ว่า ฟุตบอล คือ ธุรกิจประเภทหนึ่ง ซึ่งต้นทุนของพวกเขา ได้แก่ ชื่อเสียงและเกียรติประวัติของสโมสร ที่จะต้องสร้างและต่อยอดให้ดีเลิศที่สุด ซึ่งเมื่อใดที่ทีมมีผลงานที่ดีและเป็นที่จับจ้อง ก็จะเป็นงานง่ายสำหรับการทำธุรกิจ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรออกมา ก็จะขายได้อย่างแน่นอน 

สิ่งหนึ่งที่สามารถจะยืนยันถึงเรื่องนี้ดีได้ดี นั่นคือ การที่พวกเขาจัดทัวร์นาเมนต์กระชับมิตรในช่วงปิดฤดูกาล โดยการแข่งขันก็จะเชิญให้ทีมใหญ่ๆระดับโลกมาเจอกัน เพื่อเสมือนการจำลอง ยูโรเปี้ยนส์ ซุปเปอร์ลีก ณ สนามในทวีปต่างๆที่เป็นเมืองใหญ่ ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น คือ จำนวนผู้ชมที่ล้นหลามและคับคั่งในทุกปีที่จัด จนกระทั่งแน่ใจแล้วว่าแฟนบอลของทีมยักษ์ใหญ่จากทั่วทุกมุมโลกมีจำนวนมาก และมากกว่าแฟนบอลท้องถิ่น ซึ่งการมีแฟนบอลทั่วโลกเป็นจำนวนมาก มันย่อมมีพลังในการเป็นกลไกทางธุรกิจที่มากกว่าอยู่แล้ว ฉะนั้นแฟนบอลท้องถิ่น อาจเป็นกลุ่มก้อนที่ไม่ได้มีความสำคัญเป็นลำดับแรกๆอีกต่อไป  

ส่วนต่อมา คือ การเห็นปัญหาจากแข่งขันที่ ฟีฟ่า และ ยูฟ่า เป็นคนจัด จนพวกเขารู้สึกว่าไร้สาระ ไม่เป็นธรรม และไม่ต้องมีก็ได้ เช่น การล้ำหน้า การใช้ VAR การแข่งขันที่ควรแบ่งมากกว่า 2 ควอเตอร์ เป็นต้น แล้วจากสิ่งเหล่านี้พวกก็นำไปศึกษาและใช้สถิติเปรียบเทียบ จนกระทั่งเกิดความรู้สึกว่า กติกาบางอย่างถ้าตัดออกและเปลี่ยนใหม่ มันจะเพิ่มอรรถรสของเกมได้

จากประเด็นที่นำมาพูดในวันนี้ จึงจะเห็นได้ว่า ยูโรเปี้ยนส์ ซุปเปอร์ลีก อาจเปรียบได้กับระเบิดนิวเคลียร์ของโลกลูกหนัง ที่ผ่านการศึกษาและร่างโครงอย่างเสร็จสมบูรณ์ จนเชื่อมั่นว่าถ้าถอดสลักระเบิดลูกนี้เมื่อใด ฟีฟ่า และ ยูฟ่า ต้องมีสะเทือน แต่ถึงระนั้นวันนี้ทุกคนต่อต้าน พวกเขาจึงมีการประเมินแล้วว่าวันนี้ยังไม่ถึงขั้นหัวเด็ดตีนขาดที่จะต้องใช้มัน กลับกันการเก็บระเบิดลูกนี้ไว้ขู่ น่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและเจ็บตัวน้อยที่สุด สำหรับทุกฝ่าย   

ติดตามบทความเรื่อง ข่าวกีฬา ออกกำลังกาย และอุปกรณ์กีฬาได้ที่ ข่าวกีฬา
เวปไซด์ sportintrends.com

Facebook
Twitter