เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แฟนบอลทั่วโลกคงทราบกันดีถึงกรณีปัญหาระหว่าง ลีโอเนล เมสซี่ กับ บาร์เซโลน่า ที่มี โจเซฟ บาร์โตเมว เป็นประธานสโมสร ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลมาจากความอึดอัดใจของดาวยิงชาวอาร์เจนติน่า ที่ต้องกลายเป็นแพะรับบาปเสมอในช่วงที่ ทีมตกต่ำ ทำให้หลังจบเกมยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่พ่าย บาเยิน มิวนิค 2-8 เมสซี่ ตัดสินใจขั้นเด็ดขาดที่จะอำลาบาร์ซ่า
ด้วยการใช้เงื่อนไขที่ระบุบไว้ในสัญญา ว่าเมสซี่มีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาของตัวเองได้ทันทีแบบไม่มีค่าตัว ขณะที่ฝั่งบาร์โตเมวและบอร์ดบริหาร ได้ยกรายละเอียดในเรื่องของกรอบเวลา ที่หากแจ้งหลัง 1 มิ.ย. ของปีนั้นๆ เมสซี่ จะไม่สามารถยกเลิกสัญญาของตัวเองได้ พร้อมกับประกาศว่าทีมใดที่ต้องการตัว เมสซี่ จะต้องจ่ายค่าฉีกสัญญา 700 ยูโร เท่านั้น ซึ่งจำนวนเงินขนาดนี้คงไม่มีใครคิดสู้แน่ กับสัญญาที่เหลือยู่อีกแค่ฤดูกาลเดียว
การที่ค่าฉีกสัญญาของ เมสซี่ ทะลุไปถึง 700 ยูโร หลายคนคงสงสัยว่ามันขึ้นไปถึงขนาดนั้นได้อย่างไร ฉะนั้นเพื่อความเข้าใจที่กระจ่างชัด จะต้องย้อนไปเมื่อปี 2017 ที่บาร์ซ่ากำลังเข้าสู่ยุคตกต่ำ จากการคว้าแชมป์ได้เพียงถ้วยเดียว อีกทั้งยังเสียตัวผู้เล่นคนสำคัญอย่าง เนย์มาร์ ไปให้เปเอสเช ทำให้กระแสต่อต้านในตัวบาร์โตเมวและบอร์ดบริหารสูงขึ้น สุดท้ายกลุ่มคนเหล่านี้จึงหาทางออกเพื่อลดกระแสโจมตี ด้วยการเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับเมสซี่
ก่อนหน้านี้ เมสซี่ ก็มีค่าตัวเหมือนกับนักฟุตบอลคนอื่นๆ แต่เพราะด้วยความเก่งกาจและหัวใจที่ภักดีต่อบาร์ซ่า ทำให้ค่าเหนื่อยของเขาขึ้นมาอยู่ที่ 434 ล้านยูโร/ต่อปี พ่วงกับค่าภาพลักษณ์อีก 76 ล้านยูโร / ต่อปี (พูดภาษาคาตาลัน, ไม่วิจารณ์สโมสรลงสื่อโซเชียล )
ซึ่งรายได้ทั้งหมดที่เมสซี่จะได้รับต่อปี คือ 510 ล้านยูโร/ ต่อปี โดยการลงทุนกับเมสซี่ในราคานี้ นับว่าคุ้มค่ากับเงินที่สโมสรต้องจ่าย เพราะรายได้ที่เข้ามามีมากถึง 600 ล้านยูโร / ต่อปี ฉะนั้นการต่อสัญญาใหม่ที่มีมูลค่าสูงกว่าเดิม จึงทำได้อย่างสบายใจกับทุกฝ่าย ได้แก่ เมสซี่ ได้สัญญาใหม่ก่อนเข้าพิธีสมรส 1 วัน ขณะที่บาร์ซ่า ได้หลักประกันว่าดาวยิงผู้นี้จะอยู่กับทีมต่อไป เพราะค่าฉีกสัญญาได้อัพขึ้นมาเป็น 300 ล้านยูโร
แต่อย่างไรก็ดี กลางปี 2017 ได้มีการสืบทราบว่ากลุ่มทุนกาตาร์ (เจ้าของทีมเปเอสเช) ทำการฝากเงินในธนาคารของประเทศมอนเตเนโกร มูลค่า300 ล้ายูโร ซึ่งเรื่องนี้เมื่อเข้าหูบาร์โตเมว ก็ทำให้บอร์ดบริหารอยู่เฉยไม่ได้ เพราะมันมีโอกาสสูงที่เปเอสเช จะเอาเงินจำนวนดังกล่าวมาจ่ายเป็นค่าฉีกสัญญาของเมสซี่
ฉะนั้นบาร์โตเมว จึงยกหูไปหาพ่อของเมสซี่ เพื่อร่างสัญญากันใหม่ โดยเพิ่มค่าเหนื่อย สวัสดิการ และค่าฉีกสัญญาเป็น 700 ล้านยูโร เพื่อกันท่าจากเปเอสเช และสโมสรจากเมืองมนุษย์ที่อยากได้ตัวเมสซี่ไป
ทั้งหมดนี้จึงน่าจะทำให้เข้าใจได้แล้ว ว่าทำไมค่าฉีกสัญญาถึงมากขนาดนี้ ทำไม บาร์โตเมว ถึงไม่ยอมปล่อย เมสซี่ ไปแบบฟรีๆเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่าน นั่นก็เป็นเพราะว่าสโมสรมีปัญหาในด้านการเงินจากโควิด-19 และการใช้จ่ายที่ผิดพลาด ฉะนั้นหากปล่อยไปแบบไม่มีค่าตัว สโมสรก็จะไม่ได้อะไรแม้แต่ยูโรเดียว แต่การเก็บตัวเมสซี่ไว้ สโมสรก็ต้องกัดก้อนเกลือกินเหมือนกัน เพราะค่าเหนื่อยจัดว่าสูงลิบเหลือเกิน
Tag #ลีโอเนลเมสซี่ #messi #โจเซฟบาร์โตเมว #บาร์เซโลน่า #ข่าวกีฬา #sportintrends.com
