วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 35 เลสเตอร์ ล็อคถล่มพ่าย นิวคาสเซิ่ล คาบ้าน 2-4

เลสเตอร์

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 35 คู่เปิดหัวเป็นการพบกันระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 3 ของตาราง ที่ต้องการ 3 แต้ม เพื่อการันตีการไปเล่นฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรป ส่วน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มาเยือนถิ่นคิงพาวเวอร์ในสภาพที่ไม่มีความกดดัน เพราะแต้มขาดจากโซนตกชั้นไปแล้ว สำหรับในส่วนของผังการเล่น เจ้าบ้านมาในระบบ 4-4-2 แบบไดมอน ส่วนทีมเยือนวางผัง 3-5-2 มารับมือ

ช่วงต้นเกม เลสเตอร์ บุกใส่ตามเชิงด้วยการเคาะบอลและทำชิ่งตามช่อง จากนั้นจะหาโอกาสแทงบอลเข้ากรอบเขตโทษ หรือเปิดจากริมเส้น แต่ที่สังเกตได้ คือ การสร้างจังหวะ การเข้าทำ และการจบสกอร์ อยู่นอกเขตโทษแทบทั้งสิ้น

ขณะที่ นิวคาสเซิ่ล มากางตำรารถบัสเต็มรูปแบบใส่เจ้าบ้าน พร้อมกับวางเกมสวนกลับเร็วเอาไว้ ซึ่งจัดว่าทำได้ดี เพราะการสวนหลายครั้งมีความวูบวาบจนแนวรับเจ้าถิ่นต้องตัดฟาว์ลบ่อย กระทั่งความผิดพลาดของ โซยุนชู ที่ปล่อยให้บอลผ่านตัว แล้วไปเข้าทาง โจ วิลล็อค ซัดขึ้น 0-1 จึงยิ่งทำให้ลูกทีมของ สตีฟ บรูช เล่นง่ายขึ้น แถมยังดวงเฮงบวกเพิ่มเป็น 0-2 ก่อนจบครึ่งแรก จากลูกเตะมุม

ครึ่งหลัง เลสเตอร์ มาเปิดเกมรุกเพื่อทวงประตูคืน แต่ก็ไม่ต่างจาครึ่งแรกนัก แถมยังมาเสียเพิ่มอีก 2 ประตู จากจังหวะโต้กลับ ทำให้ 70 นาทีผ่าน จิ้งจอกสยาม โดนสาลิกาดง บุกมานำถึง 0-4 แม้ว่าช่วง 10 นาที สุดท้ายจะไล่คืนมา 2 ลูก เป็น 2-4 จากรูปแบบการเข้าทำที่เพียรพยายามมาตลอดตั้งแต่ต้นเกม แต่มันก็ยากที่จะกลับคืนสู่เกมได้ เพราะแนวรับของทีมเยือนไม่มีอาการแกว่ง

บทสรุปจากเกม เลสเตอร์ ซิตี้ กุมความได้เปรียบทุกอย่าง แต่การพาบอลไปในเขตโทษ คือ สิ่งที่พวกเขาไม่สามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งความผิดพลาดเล็กน้อยๆในเกมรับ รวมถึงการเสียประตูในสภาวะที่ตัวเองเจาะคู่ไม่เข้า ก็ดันมาเกิดขึ้นถึง 4 ลูก ทั้งหมดนี้จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้จิ้งจอกสยามพ่ายแพ้ในวันนี้

ขณะที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เล่นได้ตามแผน แต่ก็ผสมกับความเฮง เพราะเกมรับวันนี้ยืนตำแหน่งได้ดี มีความผิดพลาดให้เห็นบ้าง แต่ผู้รักษาประตูก็ท็อปฟอร์ม จึงช่วยทีมไว้ได้แบบชัดแจงถึง 2 จังหวะในครึ่งแรก ส่วนเกมรุกวันนี้เมื่อมีโอกาสก็ใส่สกอร์ได้เลย ซึ่งในเมื่อองค์รวมทุกอย่างเข้าทาง การคว้า 3 แต้ม จึงเป็นสิ่งที่คู่ควร     

#เลสเตอร์ ซิตี้ #จิ้งจอกสยาม #นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด #สาลิกาดง #ข่าวกีฬา  #sportintrends.com

Facebook
Twitter